อะไรดีที่สุดสำหรับสมองของนักเรียน? สมองของมนุษย์ต้องการวิตามินอะไรบ้าง? วิตามินเชิงซ้อนที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก

เป็นที่สุด ร่างกายที่สำคัญในร่างกายมนุษย์ ควบคุมการทำงานที่สำคัญที่สำคัญทั้งหมดและเป็น "กลไก" ที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเรา เมื่อเราบริโภคสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่สมองของเราต้องการไม่เพียงพอ เรามักจะพบว่าพลังงานและผลผลิตลดลง ความเหนื่อยล้า การระคายเคือง... คุณอยากทราบว่าสมองของคุณต้องการอาหารอะไรบ้างเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ? ในบทความนี้ เราจะบอกคุณเกี่ยวกับวิตามินบำรุงสมอง 9 ชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอย่างไร และอาหารใดบ้างที่คุณพบได้ในวิตามินเหล่านี้

เรารู้หรือไม่ว่าวิตามินชนิดใดที่เราควรบริโภคทุกวันเพื่อการทำงานของสมองที่ดีขึ้น? เราซื้ออาหารเหล่านั้นที่มีวิตามินมากที่สุดที่ช่วยปรับปรุงและกระตุ้นการทำงานของสมองของเราหรือไม่? เราทราบหรือไม่ว่าการรับประทานวิตามินบางชนิดร่วมกับอาหารจะช่วยเพิ่มความจำและระดับของเราได้ การศึกษาบางชิ้นอ้างว่าการรับประทานอาหารที่ดีอาจช่วยปกป้องสมองจากโรคต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ ได้ด้วย

ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในอาหารของเรา เราก็สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ได้ คุณสนใจไหม? เราจะแบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับวิตามินที่ควรบริโภคเพื่อปรับปรุงการทำงานของสมองของเรา และในอาหารประเภทใดบ้างที่วิตามินเหล่านี้สามารถพบได้ ค้นหาด้วยว่าอันไหนที่เหมาะกับโต๊ะของคุณ

“ถ้าเรากินไม่ดี ยาก็ไม่ได้ผล; ถ้าเรากินดีเราก็ไม่ต้องกินยา” - คำกล่าวของสาวกอายุรเวท

อาหารและวิตามินที่เราบริโภคมีผลโดยตรง (ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ) ต่อการทำงานของร่างกาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการทำงานของสมองของเรา การทำงานของสมองอาจได้รับผลกระทบจากเวลาและปัจจัยอื่นๆ เช่น พันธุกรรม อาหาร หรือแม้แต่นิสัยประจำวันของเรา

เบต้าแคโรทีนเป็นเม็ดสีแดงที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อเรารับประทานเข้าไป หน้าที่หลัก ได้แก่ ป้องกันความเสื่อมทางสติปัญญาและปกป้องความทรงจำ โดยพบว่าการขาดวิตามินนี้สามารถนำไปสู่การ การละเมิดที่ร้ายแรงสุขภาพเช่นปัญหาการมองเห็นและทำให้ตาบอดถาวร และการขาดสารอาหารก็ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กด้วย

วิตามินสำหรับสมอง:วิตามินเอหรือเบต้าแคโรทีนพบได้ในอาหารอะไรบ้าง? วิตามินชนิดนี้พบได้ในอาหารเช่น แตง มะละกอ มะม่วง ฟักทอง และแครอท

2. วิตามินบี 1

ในหมู่มากที่สุด ฟังก์ชั่นที่สำคัญวิตามินสำหรับสมองนี้มีความโดดเด่นดังนี้: การป้องกันความจำเสื่อม, "ยา" ที่ทรงพลังในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าและปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของจิตใจโดยทั่วไปตลอดจน วิธีที่ดีชะลอกระบวนการชราของสมอง ในกลุ่มวิตามินบีนั้นสามารถพบได้ ประเภทต่างๆได้แก่วิตามินบี 6 บี 9 และบี 12 วิตามินทั้งสามประเภทนี้มีข้อดีประการหนึ่งเช่นกัน ฟังก์ชั่นทั่วไป- พวกเขาส่งเสริมการก่อตัวของสีแดง เซลล์เม็ดเลือดด้วยเหตุนี้การไหลเวียนโลหิตจึงดีขึ้นและกระบวนการส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ก็เร็วขึ้น

คุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่? ร่วมกับ CogniFit!

คุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดกำลังเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่? ค้นหาคำตอบด้วยการทดสอบทางประสาทจิตวิทยาเชิงนวัตกรรมว่ามีอาการวิตกกังวลที่อาจบ่งบอกถึงภาวะซึมเศร้าหรือไม่ รับรายงานโดยละเอียดพร้อมคำแนะนำภายในเวลาไม่ถึง 30-40 นาที

วิตามินบี 1 มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า วิตามินบี- มีมากในเนื้อเยื่อสมองและ หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของวิตามินนี้มีดังต่อไปนี้: ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงของอาหารให้เป็นพลังงานและการเก็บรักษาพลังงานนี้ในร่างกายของเรา มีส่วนร่วมในการทำงานของหัวใจและระบบหัวใจและหลอดเลือด จำเป็นในกระบวนการดูดซึมกลูโคสในระบบประสาทส่งผลต่อการมองเห็นและสุขภาพตา

ตามการศึกษาต่างๆ การขาดวิตามินนี้สามารถนำไปสู่ ​​(โรคจิตของ Korsakoff กลุ่มอาการนี้พบได้บ่อยในผู้ติดสุราเรื้อรังหรือผู้ที่เป็นโรคเอดส์ หรือหลังการบาดเจ็บที่สมอง)

วิตามินสำหรับสมอง:เราพบวิตามินบี 1 ในอาหารอะไรบ้าง? เราสามารถพบวิตามินบี 1 หรือไทอามีนได้ใน เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ เช่น ไก่ เนื้อวัว หรือหมู- และยังมีที่มาของมันก็คือ ปลา ถั่ว ธัญพืช ผลไม้และผัก.

3. วิตามินบี 6

วิตามินบำรุงสมองนี้ส่งเสริมการสร้างสารต่างๆ เช่น กรดแกมมา-อะมิโนบิวทีริก(GABA) และอะเซทิลโคลีน (ทำหน้าที่ส่งสัญญาณที่เกิดขึ้นระหว่างเซลล์ประสาท) โดปามีนเกี่ยวข้องกับวงจรการให้รางวัลของสมอง อะดรีนาลีน(หรืออะดรีนาลีน) เหนือสิ่งอื่นใดควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ นอร์อิพิเนฟริน(หรือนอร์เอพิเนฟริน) ให้ “คำเตือน” สำหรับ ระบบประสาทในสถานการณ์ที่ตึงเครียด กาบาช่วยลดระดับและยังช่วยให้เราผ่อนคลายสมองและ อะเซทิลโคลีนมีส่วนร่วมในกระบวนการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมและจดจำ นอกจากนี้วิตามินบี 6 ควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีน(กรดอะมิโนชนิดนั้น ระดับสูงกระตุ้นให้เกิดรูปลักษณ์ภายนอก ความผิดปกติของหลอดเลือด), ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินบี 12และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากสำหรับ .

วิตามินบี 6ช่วยเปลี่ยนทริปโตเฟนเป็นหรือในแง่ปฏิบัติมากขึ้น ป้องกันภาวะซึมเศร้าและ- สำคัญมาก หลีกเลี่ยงการขาดแคลนวิตามินบี 6 ในร่างกายเพราะว่า สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การสูญเสียความทรงจำ สับสน เหนื่อยล้า ซึมเศร้า และสมองแก่ก่อนวัยโดยสรุปวิตามินบี 6 มีบทบาท บทบาทที่สำคัญในระหว่างการพัฒนาสมองที่ดีที่สุด

ทำการทดสอบทางประสาทจิตวิทยาเชิงนวัตกรรมและค้นหาภายในเวลาไม่ถึง 30-40 นาทีว่ามีอาการทางการรับรู้ที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของการนอนหลับหรือไม่ รับรายงานโดยละเอียดในรูปแบบ pdf พร้อมคำแนะนำส่วนตัว!

วิตามินสำหรับสมอง:เราพบวิตามินบี 6 ในอาหารอะไรบ้าง? ต้องบริโภควิตามินบี 6 ทุกวัน มีอาหารหลายชนิดที่มีวิตามินชนิดนี้เช่น ไข่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม จมูกข้าวสาลี ข้าวกล้อง มันฝรั่ง ไก่งวง เนื้อวัว ไก่ เนื้อแกะ เนื้อหมู อาหารทะเล ถั่วเลนทิล พริกไทย ถั่วเลนทิล ขนมปังแป้ง หยาบ, ถั่วลิสง, เฮเซลนัท, ถั่ว, ผักโขม, แครอท, บรอกโคลี, ปลาแซลมอน, ปลาเทราท์, ทูน่า

4. วิตามินบี 9

กรดโฟลิก- มันมีส่วนสำคัญในการ รักษาสุขภาพสมองและรับประกันการทำงานเต็มรูปแบบ- กรดโฟลิกจำเป็นตั้งแต่ก่อนที่คนเราเกิดมาอย่างเหมาะสมและทันท่วงที การพัฒนาสมองทารกที่อยู่ในครรภ์ เธอมีส่วนร่วมในการพัฒนา ท่อประสาททารกในครรภ์ซึ่งเป็นที่มาของสมองและไขสันหลัง กรดโฟลิกช่วยให้เซลล์สืบพันธุ์และส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่

วิตามินบี 9 มีส่วนร่วม การศึกษาของบางคนสมอง เช่น โดปามีน เซโรโทนิน และอะดรีนาลีน (อะดรีนาลีน) สิ่งสำคัญคือต้องรักษาระดับวิตามินบี 9 ให้อยู่ในระดับปกติและเพียงพอเพราะว่า การลดลงของระดับจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับโฮโมซิสเทอีน(กรดอะมิโนในกรณีดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของหลอดเลือดและลิ่มเลือด) ดังนั้นการขาดวิตามินบี 9 จึงสามารถนำไปสู่ การขาดวิตามินบี 9 ในเด็กอาจทำให้เกิดปัญหาพัฒนาการได้

วิตามินสำหรับสมอง:เราพบวิตามินบี 9 ในอาหารอะไรบ้าง? พบวิตามินบี 9 (หรือกรดโฟลิก) ใน ผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้: ผลไม้ (กล้วย, ส้ม, แตง, อะโวคาโด)และอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร (พืชตระกูลถั่วและธัญพืช ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต...)- นั่นคือเราสามารถพบวิตามินบี 9 ได้จากผัก ธัญพืช และถั่วลิสงเป็นหลัก

5. วิตามินบี 12

วิตามินสมองนี้สัมพันธ์กับการสร้างเปลือกไมอีลินเซลล์ประสาทบางส่วน (ชั้นที่ปกคลุมแอกซอนของเซลล์ประสาท ซึ่งช่วยให้ส่งผ่านได้เร็วขึ้น แรงกระตุ้นของเส้นประสาท) และการผลิตสีแดง เซลล์เม็ดเลือดซึ่งมีหน้าที่ส่งออกซิเจนไปยังทุกเซลล์ของร่างกาย

วิตามินบี 12 เป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำงานของสมองอย่างเหมาะสม เขามีส่วนร่วมใน การพัฒนาเซลล์และกรดไขมันและมีความสำคัญสำหรับ การสังเคราะห์โปรตีน เซลล์เม็ดเลือดแดง และสารสื่อประสาท- วิตามินนี้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความจำระยะสั้นและการคิดอย่างรวดเร็วของเรา

หากระดับวิตามินบี 12 ของเราต่ำกว่าปกติอาจทำให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้: ขาดสติและสูญเสียความทรงจำ อารมณ์แปรปรวนบ่อยครั้ง กระบวนการคิดช้าลงอย่างเห็นได้ชัดไปจนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาในช่วงต้นโรคอัลไซเมอร์

วิตามินสำหรับสมอง:เราพบวิตามินบี 12 ในอาหารอะไรบ้าง? อาหารต่อไปนี้อุดมไปด้วยวิตามินบี 12: เนื้อสัตว์ ( ไก่ ไก่งวง เนื้อ เครื่องใน...) ปลาแดงและอาหารทะเล ( ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ หอยแมลงภู่...) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ไข่ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์นม รวมถึงชีส โยเกิร์ต คอทเทจชีส...

บางคนประสบภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากไม่สามารถดูดซึมวิตามินบี 12 จากอาหารที่พวกเขากินเท่านั้น ในกรณีนี้ขอแนะนำให้ติดต่อแพทย์ของคุณและขอให้เขาเลือกวิตามินเชิงซ้อนหรืออาหารเสริมที่เหมาะสมที่สุด

6. วิตามินซี

วิตามินบำรุงสมองนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กรดแอสคอร์บิก- วิตามินซีมีความสำคัญมาก สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสมองจากความเครียดจากการออกซิเดชั่นและความเสื่อมเกี่ยวข้องกับอายุ วิตามินซีรวมกับวิตามินอี ป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ยังป้องกันการปรากฏตัว โรคหวัดลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและ โรคมะเร็ง- จากการศึกษาวิจัยต่างๆ พบว่าวิตามินซีช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสมอง โดยเฉพาะในเด็ก

นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารอื่นๆ ได้ดีอีกด้วย เช่น พืชตระกูลถั่ว. เหล็กในทางกลับกัน จำเป็นสำหรับร่างกายในการปรับปรุงการทำงานของการรับรู้ ความสนใจ และความจำ- ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณใช้เคล็ดลับง่ายๆ: เพื่อให้ธาตุเหล็กดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ให้ลองผสมพืชตระกูลถั่วในจาน (ธาตุเหล็กจำนวนมาก) กับแก้ว น้ำส้ม(มีวิตามินซีสูง)

วิตามินซีมีความสำคัญต่อสมองมากและบางคนก็ถือว่าวิตามินซี” ยาแก้ซึมเศร้าตามธรรมชาติ"เพราะจะไปเพิ่มระดับเซโรโทนิน (สารสื่อประสาทที่ช่วยให้เรา “รู้สึกมีความสุข”) ดังนั้น และเพิ่มขึ้น- ตามที่ Jean Carpenter (ผู้เขียน “Your Amazing Brain”) กล่าวไว้ว่า การทานวิตามินซีสามารถปรับปรุงความจำและการทำงานของสมองได้ และด้วยเหตุนี้จึงปรับปรุงคะแนนการทดสอบ IQ ได้ด้วย แนะนำให้บริโภควิตามินซีทุกวันเพราะจะส่งผลต่อความจำ ความสามารถในการเรียนรู้ของเรา ฯลฯ

วิตามินสำหรับสมอง:เราพบวิตามินซีในอาหารอะไรบ้าง? แหล่งที่มาของวิตามินซีได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว (ส้ม, เกรปฟรุต), แตง, สับปะรด, สตรอเบอร์รี่และผลเบอร์รี่อื่น ๆเช่นเดียวกับผัก: มะเขือเทศ, พริก, ผักโขม, กะหล่ำดอกและบรอกโคลี- นั่นก็คือวิตามินชนิดนี้ส่วนใหญ่จะพบใน ผลไม้รสเปรี้ยวและผักใบเขียว.

7. วิตามินดี

วิตามินดีเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการให้สมองของเราทำงานได้ตามปกติและถูกต้อง หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของวิตามินดีคือการปรับปรุงความจำ ส่งผลเชิงบวกต่ออารมณ์และแรงจูงใจของเรา และเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหา

จากการศึกษาบางชิ้น การขาดวิตามินดีในร่างกายอาจทำให้เกิดความบกพร่องทางสติปัญญาได้ จากการศึกษาต่างๆ พบว่า วิตามินดี สามารถช่วยให้ภาวะของคนดีขึ้นได้ หลายเส้นโลหิตตีบ(MS) หรือทุกข์ทรมานจากโรคบางอย่าง ความผิดปกติทางจิตเช่น ในกรณีตามฤดูกาล ความผิดปกติทางอารมณ์ (บางประเภทภาวะซึมเศร้าที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

วิตามินสำหรับสมอง:เราสามารถหาวิตามินดีในอาหารประเภทใดได้บ้าง? วิตามินดีขึ้นอยู่กับเป็นส่วนใหญ่ แสงแดดและพลังงาน (ดังนั้นจึงแนะนำให้ทุกคนอาบแดดโดยไม่คำนึงถึงอายุ แต่ในขณะเดียวกันก็ควรระมัดระวังด้วย) คุณไม่ควรละเลยการฟอกหนังมากเกินไป และวิตามินดียังสามารถพบได้ในอาหารต่อไปนี้: ปลาบางชนิด ( ปลาซาร์ดีน แซลมอน ทูน่า ปลาแมคเคอเรล...) หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น แชมปิญองหรือผลิตภัณฑ์นมบางชนิด

8. วิตามินเค

ที่สำคัญที่สุด คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์วิตามินสำหรับสมองนี้มีดังต่อไปนี้: เพิ่มความเร็วของสมอง เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจำ ทำหน้าที่พัฒนาความสามารถทางปัญญาโดยทั่วไป. คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์มักแสดงอาการขาดวิตามินเคในร่างกาย ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงสรุปว่าการบริโภควิตามินนี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา ด้วยการรับประทานอาหารที่สมดุลและการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเค คุณสามารถป้องกันสมองเสื่อมก่อนวัยและโรคอัลไซเมอร์ได้

นอกจากนี้วิตามินเคยังมีบทบาทสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและการดูดซึมแคลเซียม

วิตามินสำหรับสมอง:เราสามารถหาวิตามินเคในอาหารอะไรได้บ้าง? อุดมไปด้วยวิตามินชนิดนี้ บรัสเซลส์ถั่วงอก หน่อไม้ฝรั่ง ผักชีฝรั่ง ผักใบเขียวขึ้นฉ่าย และอาหารหมัก (ผลิตภัณฑ์นมหมัก)- อย่างไรก็ตาม การพิจารณาแหล่งวิตามินเคในอุดมคตินั้นถูกต้องแล้ว บรอกโคลีผักชนิดนี้เป็นขุมสมบัติ วิตามินที่มีประโยชน์และแร่ธาตุ

9. กรดไขมันโอเมก้า-3

โอเมก้า-3 กรดไขมัน- นี้ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนซึ่งร่างกายเราไม่สามารถผลิตได้ คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของสารนี้คือประสิทธิภาพของสมองที่เพิ่มขึ้น การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงจะช่วยปกป้องสมองจากความเสื่อมถอยทางสติปัญญา และช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของสมอง สมาธิ และความจำ

กรดไขมันโอเมก้า 3 เชื่อมโยงโดยตรงกับกระบวนการความจำและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 จึงช่วยป้องกันโรคความเสื่อม รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ และช่วยปรับปรุงความจำของเรา แน่นอนว่าตอนนี้วลีที่เราทุกคนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก: “กินปลาดีต่อสมอง” เริ่มเข้าท่าแล้ว!

วิตามินสำหรับสมอง:เราสามารถพบกรดไขมันโอเมก้า 3 ในอาหารประเภทใดบ้าง? ปลา– นี่คือแหล่งที่ดีที่สุดของสารเหล่านี้ รวมไว้ในอาหารของคุณ ปลาซาร์ดีน ปลาแอนโชวี่ ปลาแซลมอน ปลานาก ปลาทูน่าฯลฯ

น่าเสียดายที่ไม่มีอาหารที่มีวิตามินครบถ้วนตามที่สมองของเราต้องการ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการเรียนรู้วิธีรับประทานอาหารที่ถูกต้องและให้แน่ใจว่าระดับวิตามินทั้งหมดในร่างกายเป็นปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญ นั่นคือพยายามหลีกเลี่ยงการขาดหรือได้รับวิตามินมากเกินไป และดังที่นักประสาทวิทยา Fernando Gómez-Pinilla กล่าวว่า: “.

ขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่สดใหม่และมากที่สุดเสมอ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ- ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับผักและผลไม้ รวมถึงปลา พืชตระกูลถั่ว ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากนมในอาหารของคุณ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตาม บรรทัดฐานรายวันปริมาณการใช้น้ำ อย่าลืมว่า 85% ของน้ำหนักสมองของเราประกอบด้วยน้ำ! นอกจากนี้น้ำยังให้พลังงานแก่เราและมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์มากมาย ด้วยเหตุนี้การให้น้ำแก่สมองจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก รูปแบบการกินส่งผลโดยตรงต่อการทำงานปกติของสมองของเรา ดังนั้นหากเราต้องการให้สมองแข็งแรงเราควรรับประทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และกระตุ้นจิตใจทุกวัน การฝึกสมองส่วนบุคคลที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ของ CogniFit สามารถช่วยให้คุณทำเช่นนั้นได้

คุณต้องการปรับปรุงความจำ ความสนใจ และการทำงานด้านการรับรู้อื่น ๆ หรือไม่? ฝึกความสามารถหลักของสมองด้วย ! โปรแกรมจะระบุฟังก์ชันการรับรู้ที่อ่อนแอที่สุดโดยอัตโนมัติและแนะนำระบบการฝึกอบรมที่เหมาะกับคุณ! ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเป็นเวลา 15-20 นาที และคุณจะเห็นการปรับปรุงภายในไม่กี่เดือน หากเด็กอยู่ในวัยอนุบาลแล้วหรือ วัยเรียนแน่นอนว่าผู้ปกครองมีคำถามเกี่ยวกับการฟื้นฟูการทำงานของการรับรู้ ด้วยการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การฟื้นฟูสมรรถภาพทางปัญญา และการหายไปของอาการ ADHD สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ คุ้มค่ามากอย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีระดับการทำงานของการรับรู้ก่อนที่จะเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เช่นเดียวกับระดับทางสังคมของครอบครัวเด็ก และความสมบูรณ์ของมาตรการฟื้นฟูสมรรถภาพที่ดำเนินการ

หากคุณต้องการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับหัวข้อนี้และเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ การกินเพื่อสุขภาพเราขอแนะนำให้คุณอ่านหนังสือต่อไปนี้: “โภชนาการทางระบบประสาท Your Mood Diet” โดย Sandi Krstinic, “Your Amazing Brain” โดย Jean Carpenter, “ อาหารจากพืช” ลินด์ซีย์ นิกสัน, “Vitamania” แคเธอรีน ไพรซ์, “โภชนาการสมอง” นีล บาร์นาร์ด

“โภชนาการเป็นสิ่งจำเป็น แต่การกินอย่างชาญฉลาดเป็นศิลปะ” (ลา โรชฟูโกลด์)

ขอบคุณสำหรับการอ่านบทความนี้ คุณรู้จักวิตามินอื่น ๆ ที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองหรือไม่? แบ่งปันกับเราในความคิดเห็นด้านล่าง! และยังฝากคำถามและข้อเสนอแนะของคุณไว้ด้วย :)

แปลโดย Alexandra Dyuzheva

Psicóloga especializada en psicología clínica infanto-juvenil. ต่อเนื่องกันสำหรับ ser psicologa sanitaria และ neuropsicóloga clínica. Apasionada de la neurociencia และการสืบสวนของ cerebro humano Miembro กิจกรรมของสมาคมที่แตกต่างกันและการทำงานและการทำงานด้านมนุษยธรรมและเหตุฉุกเฉิน Mairena le encanta escribir artículos que puedan ayudar หรือแรงบันดาลใจ
“Magia es creer en ti mismo”

สมองของมนุษย์สามารถเปรียบเทียบได้กับคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจะถูกจดจำ บันทึก และทำซ้ำในช่วงเวลาที่ต้องการ แต่ภายใต้อิทธิพลของความเครียด โภชนาการที่ไม่ดีโรคความจำเสื่อมอย่างเห็นได้ชัดและต้องได้รับการสนับสนุนด้วยวิธีเพิ่มเติม วิตามินความจำจะช่วยให้คุณปรับปรุงได้

แพทย์ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณวิตามินในร่างกายกับระดับความจำ เพื่อรักษาและควบคุมสมดุลและป้องกันการเสื่อมของความจำ คุณควรเรียนรู้เพิ่มเติมว่าวิตามินชนิดใดที่ส่งผลต่อกระบวนการความจำ และเริ่มนำไปใช้ในอาหารของคุณ

หน่วยความจำคืออะไร? นี่คือความรู้ความเข้าใจที่ซับซ้อน กระบวนการทางจิตซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้: การพิมพ์ การจดจำ การจัดเก็บ การรับรู้ และการทำซ้ำข้อมูล

ทำไมความจำเสื่อมจึงเกิดขึ้น? ความสามารถของสมองในการจดจำเหตุการณ์และใช้ข้อมูลที่เก็บไว้จะไม่ลดลงตราบใดที่ร่างกายทำงานในโหมดปกติ

ทันทีที่สถานการณ์ที่เจ็บปวดหรือตึงเครียดเกิดขึ้น ความสนใจและความทรงจำจะทำให้ตัวเองรู้สึกได้จากความทรงจำที่หายไป ดูเหมือนว่าไฟล์ถูกลบโดยไม่ตั้งใจอันเป็นผลจากการกระทำที่ไม่เหมาะสม

วิตามินอะไรช่วยเพิ่มความจำ

วิตามินหลักสำหรับความจำและการคิดคือวิตามินบี บทบาทของพวกเขาคือการทำให้เซลล์สมองอิ่มตัวด้วยออกซิเจนและป้องกันการโอเวอร์โหลดและความชรา เมื่อขาดวิตามิน แรงกระตุ้นของเส้นประสาทจะอ่อนลง ความจำเสื่อม และบุคคลนั้นไม่สามารถจดจำข้อมูลได้ดี

• B1 – ไทอามีน ส่งผลต่อการทำงานของการรับรู้
• B2 – ไรโบฟลาวิน ให้พลังงานแก่ร่างกาย
• บี3 – กรดนิโคตินิกช่วยให้คุณกระตุ้นการทำงานของสมอง
• B5 – แคลเซียมแพนโทธีเนต มีหน้าที่ในการจำระยะยาวและผลิตแอนติบอดีที่ปกป้องสมองจากแอลกอฮอล์และนิโคติน
• B6 – ไพริดอกซิ เพิ่มการทำงานของสมอง และป้องกันพิษจากนิโคตินหรือแอลกอฮอล์
• B9 – กรดโฟลิก ส่งเสริมการกระตุ้นและยับยั้งระบบประสาท
• B12 – ไซยาโนโคบาลามิน ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนเข้าสู่โหมดการนอนหลับและการตื่นตัว

วิตามินที่สำคัญอื่นๆ สำหรับความจำและกระบวนการอื่นๆ: C, D, E, P.

• วิตามินซี – กรดแอสคอร์บิก ป้องกันการโอเวอร์โหลดทั้งทางร่างกายและจิตใจได้อย่างน่าเชื่อถือ
• วิตามินดี – แคลซิเฟอรอล ป้องกันการแก่ก่อนวัยและการเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง
  วิตามินอี - โทโคฟีรอลอะซิเตต ปลดปล่อยเนื้อเยื่อจากสารพิษและต่อสู้กับการทำลายล้างในสมอง
• วิตามินพี – ไบโอฟลาโวนอยด์ ป้องกันเส้นเลือดฝอยเปราะบาง และบรรเทาอาการตกเลือดในสมอง

การรักษาด้วยยา

ความจำเสื่อมจะค่อยๆ ประการแรก หลังจากออกจากผนังบ้าน คุณเริ่มจำได้อย่างเจ็บปวดว่าเตารีดหรือกาต้มน้ำบนเตาปิดอยู่หรือไม่ จากนั้นคุณก็แค่มองหาของที่หายไปและไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน

หากคุณไม่เติมเต็มวิตามินที่หายไป ร่างกายจะเริ่มอ่อนแอและหยุดต่อสู้กับโรค

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับบุคคลคือวิตามินเพื่อปรับปรุงความจำ แต่คุณควรรู้ว่ากระบวนการละเมิดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหยุด กลไกกำลังเคลื่อนไหวและจะใช้เวลาช่วงระยะเวลาหนึ่งและความอดทนอย่างมากในการฟื้นฟูความทรงจำ

มี ยาพิเศษซึ่งช่วยเพิ่มความจำ มีสมาธิ ส่งเสริมการคิด:

1. การรักษาที่มีประสิทธิภาพ "Memory Forte" จะช่วยลดได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอายุในร่างกาย จะถูกถ่ายเมื่อคุณต้องการจดจำด้วย จำนวนมากวัสดุใหม่
2. Pezam ถูกกำหนดให้กับผู้ป่วยที่มีการสูญเสียสมาธิและความสามารถในการจดจำ บางครั้งการใช้ยาจะช่วยเพิ่มความสามารถทางปัญญาในช่วงระยะเวลาของการฝึกอบรมพิเศษ
3. ยา “Vitrum Memory” ทำให้สมองฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ฟื้นฟูกิจกรรมทางจิตและความจำระยะยาว
4. ผลิตภัณฑ์ "Intellan" ประกอบด้วย สารสกัดจากพืชสงบระบบประสาท รักษาอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล

จำเป็นต้องรู้ว่ายาทั้งหมดเหล่านี้เป็นยาและมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถกำหนดสิ่งที่คุณต้องดื่มในแต่ละกรณี หลังจากใช้จ่ายแล้วสอบเต็ม เขาจะเข้าใจเหตุผลและภาพเต็ม

โรคต่างๆ

ความจำของเด็กเสื่อมควรเตือนผู้ปกครองให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันเวลา หลังจากวิเคราะห์สภาพของเด็กแล้ว แพทย์จะพิจารณาว่าควรดื่มอะไรและสั่งยาเตรียมวิตามินที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็กที่เปราะบาง

ผลิตภัณฑ์ทดแทนยา

อย่ารีบไปร้านขายยาเมื่อคุณสังเกตเห็นว่าความจำของคุณแย่ลง

การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการจะทำให้คุณมีความสุขมากกว่าการกินยาเม็ดและแคปซูล

ดูรายการและสร้างอาหารประจำสัปดาห์ที่มีวิตามินที่จำเป็นทั้งหมด:

1. B1 สะสมด้วยบัควีทและ ข้าวโอ๊ต, ไข่, ปลา, เนื้อหมู, เนื้อวัว, ถั่วลันเตา, ถั่ว;
2. B2 พบได้ในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม ผู้ที่เป็นมังสวิรัติต้องคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับวิธีป้องกันการขาดวิตามิน
3. มีวิตามินบี 3 ค่อนข้างมากในผักใบเขียว ยีสต์ นม ปลา บักวีต เนื้อไก่, ไข่แดง, ถั่ว;
4. B5 ใช้แทนตับ ไข่ นม ไข่ปลา บัควีท ถั่วลันเตา กะหล่ำปลี เฮเซลนัท
5. วิตามินบี 6 พบได้ในมันฝรั่ง กะหล่ำปลี ธัญพืช วอลนัท ข้าว กล้วย ไข่ ตับ และนม
6. B9 ให้นม ชีส ฟักทอง เห็ด ถั่ว เนื้อแกะ เนื้อวัว แอปริคอท พืชตระกูลถั่ว ซีเรียล ผักดิบและผลไม้ (แครอท, กะหล่ำปลี, อินทผลัม, ส้ม, กล้วย);
7. B12 ถูกแทนที่ด้วยสาหร่ายทะเล หอยนางรม ปลาแฮร์ริ่ง เนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก และชีส
8. C พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว ลูกเกดดำ กะหล่ำปลี แอปเปิ้ล กีวี่ แอปริคอต พริกหยวก มะเขือเทศ โรสฮิป สตรอเบอร์รี่ ซีบัคธอร์น มันฝรั่งต้ม
9. D เข้ามาแทนที่ เนย, คาเวียร์, น้ำมันปลา, ผักชีฝรั่ง, ไข่แดง, ผลิตภัณฑ์นม;
10. มีสาร E จำนวนมากในน้ำมันพืช ถั่ว เมล็ดพืช ไข่ นม ข้าวโอ๊ต ตับ;
11. P ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย: โรสฮิป โรวัน องุ่น มะนาว แบล็คเคอร์แรนท์ แอปเปิ้ล ชาเขียว

วิตามินจากธรรมชาติ

การสูญเสียความทรงจำสามารถหยุดได้ด้วยความช่วยเหลือของการแพทย์แผนโบราณ มีการเยียวยาพื้นบ้านสำหรับการปรับปรุงความจำคุณสมบัติมีประโยชน์และทิงเจอร์นั้นง่าย:

• โคลเวอร์ป้องกันการพัฒนาของเส้นโลหิตตีบ, ลดเสียงรบกวนในศีรษะ, ลดความดันในกะโหลกศีรษะ;
• สด ตาสนเพิ่มความสนใจและความทรงจำและปกป้องร่างกายจากความชรา
• เอเลคัมเพนทำให้สมองตื่นตัว
• เปลือก Rowan ปลดปล่อยหลอดเลือดสมองจากคอเลสเตอรอลส่วนเกินป้องกันการเกิดหลอดเลือด
• บลูเบอร์รี่ปรับปรุงการมองเห็นและการรับรู้
• Ginger ยังมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับปรุงการท่องจำข้อมูล
• Sage ปรับปรุงประสิทธิภาพของร่างกายและปรับปรุงโทนสี

ยาแผนโบราณ

ปัจจุบัน การเยียวยาพื้นบ้านเพื่อเพิ่มความจำนั้นพอๆ กับการแพทย์เลย สูตรทิงเจอร์ที่ถูกลืมซึ่งรักษาประเพณีของชาติกำลังได้รับการฟื้นฟูและใช้งานโดยผู้ป่วยจำนวนมาก:

• ตัวอย่างเช่น ในสมัยก่อน ทองคำถูกจุ่มลงในภาชนะที่มีน้ำแล้วจุดไฟ น้ำต้มจนเดือดลดลงครึ่งหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้คือ “น้ำสีทอง” รับประทานครั้งละช้อนชา 2-3 ครั้งต่อวัน สองสัปดาห์ก็เพียงพอที่จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและปรับปรุงความจำข้อมูล
• ไม่น้อย สูตรที่น่าสนใจ: น้ำตาลชิ้นหนึ่งโรยด้วยขี้เถ้าวางบนส้อมแล้วจุดไฟ น้ำตาลก็เริ่มละลาย หยดวอดก้า (หรือแสงจันทร์) ลงในขวด (0.5 ลิตร) ละลายและทำให้เครื่องดื่มเข้มข้นมีสีสัน แล้วเพิ่ม โคนต้นสน(5 ชิ้น) รากข่า (25 กรัม) กิ่งก้านเฮเทอร์ ปิดฝาขวดแล้วปล่อยทิ้งไว้สองสัปดาห์ ทิงเจอร์หนึ่งช้อนชาละลายในชาร้อนแล้วนำมาก่อนนอน

ความช่วยเหลือด้านจิตวิทยาและยิมนาสติกจิต

ความชราของร่างกายไม่สามารถป้องกันได้ แต่ทุกคนสามารถช่วยตัวเองจากโรคแทรกซ้อนที่ตามมาได้ ความเจ็บป่วยมีไว้เพื่อรักษาจิตวิญญาณ

หากชีวิตดำเนินต่อไปแบบเดิมๆ และไม่มีการเปลี่ยนแปลง โรคใหม่ๆ อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอลงจนหยุดสู้ได้ ระบบภูมิคุ้มกันต้องการการสนับสนุน เมื่อตระหนักถึงสาเหตุของความเจ็บป่วยในระดับจิตใจ คุณจะเริ่มมีชีวิตที่แตกต่างออกไป

การเสื่อมถอยของความจำที่ชัดเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้เกิดแรงผลักดันให้เกิดความคิดใหม่ๆ การกำจัดหรือการเกิดขึ้นของนิสัยจะเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมและทัศนคติต่อชีวิต บุคคลต้องเรียนรู้ที่จะฟังและเข้าใจร่างกายอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองและแบบฝึกหัดต่อไปนี้

การสูญเสียความทรงจำไม่ใช่โทษประหารชีวิต เงินทุนที่มีอยู่เพื่อปรับปรุงหน่วยความจำจะถูกจัดเก็บไว้ในแบบฝึกหัดง่ายๆ:

1. ตัวอย่างเช่น การนับถอยหลังอย่างรวดเร็วจาก 100 ถึง 1 หรือตัวอักษรจาก "A" ถึง "Z"
2. จำเกมสำหรับเด็ก - "ผู้หญิงและ" ชื่อผู้ชาย", "เมือง", "ผลิตภัณฑ์", "สัตว์", "คำพูด" และอื่นๆ
3. เริ่มเรียนรู้บทกวี แล้วความจำที่ถดถอยจะหยุดลง
4. ในตอนท้ายของวัน ให้จดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพยายามกำหนดรูปแบบทางจิตใจ ภาพที่สวยงาม- สิ่งนี้จะช่วยยกระดับอารมณ์ของคุณและปรับปรุง สภาพทั่วไปร่างกาย.
5. เตรียมอาหารจานโปรดของคุณพร้อมทั้งสนุกสนานไปกับเรื่องราวตลก ๆ เกี่ยวกับส่วนผสม

วิตามินสำหรับความทรงจำจะทำให้คุณพอใจ ยอมรับได้ การออกกำลังกายและการปฏิเสธ นิสัยไม่ดีจะป้องกันการเสื่อมของความจำของคุณและการรับประทานอาหารที่สมดุลจะทำให้ร่างกายอิ่มด้วยวิตามินที่จำเป็น

คุณสามารถปรับปรุงการทำงานของสมองและความจำได้ด้วยความช่วยเหลือบางอย่าง สารที่มีประโยชน์- สามารถรับได้จากอาหารจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่เพียงพอเสมอไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทานวิตามินเพื่อสมองและความจำ วันนี้เราจะมาพูดถึงสารที่กระตุ้นการทำงานของสมองและมาดูประเภทกันมากที่สุด ยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก

หน้าที่หลักอย่างหนึ่งของสมองคือความจำ สาเหตุของการหลงลืมที่เพิ่มขึ้นนั้นค่อนข้างหลากหลาย บ่อยครั้งความสนใจและความทรงจำลดลงชั่วคราวเนื่องจากการทำงานหนัก การนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดทางอารมณ์ หรือ ความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น. การละเมิดที่คล้ายกันความทรงจำเรียกว่า "ใช้งานได้"

โดยปกติแล้ว นักเรียน ผู้สูงอายุ เด็กที่เป็นโรค ADHD รวมถึงคนงานที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับของเสียทั้งกายและใจอยู่ตลอดเวลา จะมีอาการหลงลืมมากขึ้น เพื่อกำจัดสิ่งนี้ คุณต้องกำจัดสาเหตุและรับประทานวิตามินเพื่อเพิ่มความจำและการทำงานของสมอง มากไป วิตามินที่สำคัญสำหรับจิตใจได้แก่:

1. วิตามินบี 1- ส่งผลต่อความสามารถในการจดจำข้อมูลของสมอง การขาดมันกระตุ้นให้เกิดความอ่อนแอทางร่างกายและจิตใจความเหนื่อยล้าและความหดหู่
2. วิตามินบี 2- ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน
3. วิตามินบี 3- ส่งเสริมการผลิตพลังงานในเซลล์ประสาทส่งผลให้ความจำและการทำงานของสมองดีขึ้นนั่นเอง
4. วิตามินบี 5- มีหน้าที่ในการจำระยะยาวและยังสามารถระงับได้ ผลกระทบเชิงลบแอลกอฮอล์และนิโคตินในสมองของมนุษย์
5. วิตามินบี 9- ปรับปรุงความเร็วในการคิดและคุณภาพการท่องจำ
6. วิตามินบี 12- ส่งผลต่อสภาวะของร่างกายมนุษย์ระหว่างการนอนหลับและตื่นนอน
7. วิตามินซี- ปกป้องร่างกายจากความเครียดทางจิตใจและร่างกายตลอดจนอิทธิพลของปัจจัยลบภายนอก
8. วิตามินอี- นี่คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ การกระทำของมันมีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัด อนุมูลอิสระการกระทำที่ทำให้การทำงานของสมองช้าลงอย่างมาก
9. วิตามินดี- ป้องกันการพัฒนาความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางและเร่งการทำงานของสมอง

สารเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่า "วิตามินแห่งความทรงจำ" ต่อไปเรามาดูกันว่าผลิตภัณฑ์อาหารใดบ้างที่มีปริมาณมากที่สุด

โภชนาการสมอง: หลักการพื้นฐาน

เพื่อให้มั่นใจว่าสมองทำงานได้เป็นปกติ ต้องปฏิบัติตามกฎบางประการ ที่สำคัญที่สุด:

1. คุณไม่สามารถกินมากเกินไป มีการใช้ออกซิเจนจำนวนมากเพื่อย่อยอาหารส่วนเกิน สิ่งนี้นำไปสู่การก่อตัวของอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์สมอง
2. ยึดติดกับมื้ออาหารที่เป็นเศษส่วน กินวันละ 5-6 ครั้งในส่วนเล็กๆ
3. รวมปลาในอาหารของคุณอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
4. ใช้ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน(ธัญพืช)
5. กินผักและผลไม้สดทุกวัน
6. โภชนาการจะต้องถูกต้องและสมดุล
7. หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นอันตรายต่อสมองของคุณ (แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารที่มีไขมัน ขนมหวาน)

วิตามินที่รับผิดชอบในการทำงานของสมองช่วยป้องกันการทำงานของสมองลดลงและการเกิดความบกพร่องทางสติปัญญา พบได้ในปริมาณที่กำหนดในอาหารบางชนิด อาหารนี้ควรรวมอยู่ในอาหารประจำวันของคุณ:

• เนื้อสัตว์ - เนื้อวัว, ไก่;
• เครื่องใน – ตับหมูและหัวใจ;
• ปลา – ปลาเทราท์, ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน;
• อาหารทะเล - หอยนางรม, หอย;
• ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช - โฮลวีต, ข้าวโอ๊ต, ข้าวฟ่าง, ข้าวกล้อง;
• ผัก - กระเทียม, ผักโขม, กะหล่ำปลีแดง, บรอกโคลี, พริกหวาน, มะเขือเทศ, มันฝรั่ง, หัวหอม, หัวบีท, หน่อไม้ฝรั่ง;
• ผลเบอร์รี่และผลไม้ - แบล็กเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, แอปเปิ้ลสีแดง, ส้ม, กล้วย, ทับทิม, อะโวคาโด, ลูกพลับ;
• ถั่ว – อัลมอนด์, วอลนัท, เฮเซลนัท;
• ไข่ – ไก่ นกกระทา;
• เครื่องเทศธรรมชาติ – ขมิ้น, ออริกาโน, ลูกจันทน์เทศ;
• น้ำมัน – มะกอก เมล็ดแฟลกซ์ มะพร้าว
• ดาร์กช็อกโกแลต (75%);
• ชาเขียว นม โยเกิร์ต

วิตามินเชิงซ้อนสำหรับสมองและความจำ

เพื่อปรับปรุงการทำงานของสมอง การเพิ่มคุณค่าอาหารด้วยอาหารเพื่อสุขภาพนั้นไม่เพียงพอ จำเป็นต้องรับประทานวิตามินและแร่ธาตุเชิงซ้อนเป็นพิเศษเป็นระยะ ปัจจุบันมีการนำเสนอยาเพื่อเพิ่มความจำในวงกว้าง มาดูวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพหลายประการที่ผู้ใหญ่สามารถทำได้:

1. หน่วยความจำฟอร์เต้

ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ รักษาความชัดเจนในการคิด ควรใช้เพื่อรักษาความจำเสื่อมตามอายุ, ขาดสติ และในกรณีที่มีภาระทางสติปัญญาสูง ประกอบด้วยวิตามินสารสกัด พืชสมุนไพร, อาร์เอ็นเอ และดีเอ็นเอ

ราคา: 300-320 รูเบิล

2. หน่วยความจำ Vitrum

คอมเพล็กซ์นี้ช่วยปรับปรุงสมองและ การไหลเวียนของอุปกรณ์ต่อพ่วง- ขอแนะนำให้ใช้เพื่อความจำระยะยาว ปรับปรุงกิจกรรมทางจิต และเพิ่มความสามารถทางปัญญา กำหนดไว้เมื่อมันเกิดขึ้น สถานการณ์ที่ตึงเครียดและความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง ส่วนประกอบประกอบด้วยวิตามินบี วิตามินซี และสารสกัดจากพืช

ราคา: 470-500 รูเบิล

3. เรเวียน

คอมเพล็กซ์นี้กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในสมองซึ่งจะเป็นการเพิ่มกิจกรรมของมัน จะต้องดำเนินการเมื่อ ความเหนื่อยล้าเรื้อรังภาวะซึมเศร้าและเพื่อความมั่นคง สภาวะทางอารมณ์- ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ยีสต์ และสารสกัดจากพืช

ราคา: 3,500 รูเบิล

4. Astrum ฟอสฟาไทด์คอมเพล็กซ์

ยาจะคงตัว กระบวนการเผาผลาญในเซลล์สมองส่งผลต่อความจำและพัฒนาการทางจิต แนะนำให้ใช้เมื่อเหนื่อยเกินไป รัฐวิตกกังวล, อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและยังช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดและความจำอีกด้วย มีส่วนผสมของเลซิติน

ราคา: 1,400 รูเบิล

วิตามินคอมเพล็กซ์สำหรับนักเรียนและเด็กนักเรียน

นักเรียนและนักเรียนมัธยมปลายทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมักเกิดความเครียดได้ง่าย เซสชัน การทดสอบ การสอบปลายภาคจำเป็นต้องมีความเครียดทางจิตใจอย่างมาก ในกรณีนี้แพทย์แนะนำให้รับประทานวิตามินเชิงซ้อนชนิดพิเศษ ยาต่อไปนี้เหมาะสำหรับนักเรียนและเด็กนักเรียน:

1. อาหารเสริมบำรุงสมอง

ราคา: 2,500 รูเบิล

2. วิตามินไกลซีน+บี

ยาทำให้อารมณ์ดีขึ้นเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพทางจิตและลดความเครียดทางจิตใจ ขอแนะนำให้ทำก่อนและระหว่างภาคเรียนหรือการสอบ ประกอบด้วยวิตามินบีและไกลซีน

ราคา: 200 รูเบิล

3. เบรน-โอ-เฟล็กซ์

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยฟื้นฟูเซลล์สมอง ทำให้ระบบประสาทสงบ และเพิ่มปริมาตรของเซลล์สมองที่ทำงาน ประกอบด้วยโอเมก้า 3 วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และสารสกัดจากแปะก๊วย

ราคา: 1,200 รูเบิล

สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กนักเรียน อายุน้อยกว่าวิตามินเชิงซ้อนเช่น Pikovit, VitaMishki, Alphabet Shkolnik, Vitrum Baby เหมาะสม ยาเหล่านี้นอกเหนือจากการเสริมสร้างการทำงานของสมองและปรับปรุงความจำแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของเด็กอีกด้วย ผลิตในรูปแบบของแยมผิวส้มเยลลี่ซึ่งทำให้เด็ก ๆ กินอย่างเพลิดเพลิน

ข้อควรระวัง

ยาที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ยา แต่เป็นยาทางชีวภาพ สารเติมแต่งที่ใช้งานอยู่อาหาร อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่มรับประทาน คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณอย่างแน่นอน

คอมเพล็กซ์หลายแห่งมีรายการข้อห้ามมากมาย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เมื่อรับประทานวิตามินเชิงซ้อนเหล่านี้ คุณควรหยุดรับประทานยาอื่นๆ ที่มีวิตามินที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง มิฉะนั้นอาจใช้ยาเกินขนาดได้ วิตามินที่มากเกินไปก็เป็นอันตรายพอๆ กับการขาดวิตามิน

• การนอนหลับที่ดี (เพื่อการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพคุณต้องนอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง)
• อ่านวรรณกรรมด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (ไม่เพียงช่วยเพิ่มความจำ แต่ยังขยายคำศัพท์ด้วย)
• เรียนรู้บทกวีด้วยใจ
• เล่นเกมคอมพิวเตอร์เชิงกลยุทธ์โดยใช้ตรรกะ (30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว)
• ทำงานกับตัวเลข (นี่คือการฝึกความจำที่มีประสิทธิภาพ)
• เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง (เช่น เรียนรู้ภาษาต่างประเทศ)
• เล่นกีฬา (ดี) สมรรถภาพทางกายเพิ่มความสามารถในการรับรู้และจดจำข้อมูลใหม่)
• กินให้ดีและเหมาะสม (สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือต้องรับประทานอาหารเช้าทุกวัน)

หากคุณเริ่มมีปัญหาเรื่องความจำและรู้สึกว่าเหนื่อยเร็ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือปรับปรุงการรับประทานอาหารและพิจารณารูปแบบการใช้ชีวิตของคุณใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องทานวิตามินที่ช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง อย่างไรก็ตาม ในการทำเช่นนี้ คุณจะต้องติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่จะบอกคุณว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณที่จะรับประทานเป็นรายบุคคล

เพื่อพัฒนาการปกติและ สุขภาพที่ดีเด็กทุกคนต้องการวิตามิน และโดยเฉพาะเมื่อพูดถึงเด็กนักเรียน ด้วยการได้รับวิตามินที่เพียงพอ เด็กวัยเรียนจึงสามารถรับมือกับภาระทางวิชาการได้อย่างง่ายดาย มีสมาธิกับงานได้อย่างอิสระ และเรียนรู้เนื้อหาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว วิตามินอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับเด็กนักเรียนและจำเป็นในวัยนี้? อาหารเสริมวิตามินจากร้านขายยาเหรอ?

วิตามินเชิงซ้อนเป็นความรอดที่แท้จริงเมื่อไม่สามารถรับประทานอาหารที่สมดุลได้

ข้อบ่งชี้

ข้อห้าม

ไม่ได้รับวิตามินในกรณีต่อไปนี้:

• การพัฒนาของภาวะวิตามินเกิน (โดยปกติจะเป็นการให้วิตามินดีหรือเอเกินขนาด)
• การไม่ยอมรับส่วนบุคคล
• โรคร้ายแรงในเด็ก

วิตามินเสริมควรได้รับการสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น

ทำไมพวกเขาถึงกระตุ้นการทำงานของสมองและปรับปรุงความจำ?

• วิตามินบี 1 ช่วยเพิ่มโภชนาการของสมองและมีการเปิดใช้งานกิจกรรมการรับรู้ และเด็กก็เริ่มจำเนื้อหาได้ดีขึ้น ปัญหาการขาดแคลน ของวิตามินชนิดนี้นำไปสู่ปัญหาความจำหงุดหงิดและเหนื่อยล้า
• เด็กนักเรียนต้องการความเครียดทางจิตใจอย่างมาก วิตามินมากขึ้นบี2,เนื่องจากมีหน้าที่ผลิตพลังงาน การขาดวิตามินนี้จะแสดงออกมาด้วยความอ่อนแอ ความอยากอาหารไม่ดี และเวียนศีรษะ
• วิตามินบี 3 เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานในเซลล์ประสาทเนื่องจากการทำงานของสมองถูกกระตุ้น หากรับประทานไม่เพียงพอในแต่ละวัน ความจำของเด็กจะลดลง และความเหนื่อยล้าจะค่อยๆ สะสม
• สถานะของความจำระยะยาวขึ้นอยู่กับวิตามินบี 5การขาดมันนำไปสู่ ความเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่องและปัญหาการนอนหลับ
• วิตามินบี 6 ก็มีความสำคัญมากต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางเช่นกันอาการของการขาดคืออาการนอนไม่หลับ ความจำเสื่อม และคิดช้า
• รายได้เพียงพอ กรดโฟลิกสำคัญสำหรับการควบคุมความตื่นเต้นง่ายของระบบประสาทรักษาความจำและความเร็วในการคิด การขาดวิตามินนี้นำไปสู่ความไม่แยแสและปัญหาเกี่ยวกับความจำทั้งระยะยาวและระยะสั้น
• วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการทำงานของการรับรู้ การทำงานของสมอง, รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับและความตื่นตัว หากขาดไปเด็กจะง่วงนอนตลอดเวลาและเริ่มบ่นว่าเวียนศีรษะ
• การทานวิตามินซีก็มีความสำคัญต่อความจำเช่นกันเนื่องจากมีอุปทานเพียงพอ กรดแอสคอร์บิกจำเป็นสำหรับการดูดซึมวิตามินบี
• วิตามินอีก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากได้รับการระบุไว้ในการปกป้อง เซลล์ประสาท จากการออกฤทธิ์ของอนุมูลอิสระและสารประกอบที่เป็นพิษ นอกจากนี้การใช้ยังทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงขึ้นซึ่งยังช่วยปรับปรุงความจำอีกด้วย

การให้วิตามินอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพัฒนาการของเด็กอย่างเต็มที่

ควรใช้เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันหรือไม่?

ควรสังเกตว่าระบบภูมิคุ้มกันของนักเรียนมีความเครียดสูงและควรได้รับวิตามินเสริม อาหารของเด็กวัยเรียนควรมีแหล่งวิตามินซีและวิตามินเอเพียงพอ เช่นเดียวกับวิตามินอีและดี วิตามินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากการถูกโจมตีโดยไวรัสและแบคทีเรีย

หากไม่สามารถรับประกันการจัดหาสารประกอบดังกล่าวพร้อมกับอาหารได้คุณสามารถใช้วิตามินที่ซับซ้อนพิเศษได้เช่นให้ VitaMishki Immuno+ หรือ Immuno Kids จาก Multi-Tabs แก่ลูกของคุณ

แบบฟอร์มการเปิดตัว

วิตามินสำหรับวัยเรียนมีการผลิตใน รูปร่างที่แตกต่างกัน– เจลหรือน้ำเชื่อมหวาน เม็ดแข็งหรือกัมมี่เคี้ยวได้ เม็ดเคลือบ แคปซูล ยาดราจี และแม้แต่สารละลายสำหรับฉีด ในขณะเดียวกันวิตามินเสริมยอดนิยมสำหรับเด็กนักเรียนก็เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบเคี้ยวได้

ทางเลือกของวิตามินนั้นกว้างมากและให้คุณเลือกได้ ตัวเลือกที่เหมาะสมแม้แต่เด็กที่จู้จี้จุกจิกที่สุด

วิตามินชนิดใดที่ควรให้ดีที่สุด: รีวิววิตามินยอดนิยม

บ่อยครั้งที่เด็กนักเรียนซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินรวมต่อไปนี้:

ชื่อและแบบฟอร์มการเผยแพร่	อายุของการสมัคร	สารประกอบ	ข้อดี	ปริมาณรายวัน
ตัวอักษร Schoolboy (เม็ดเคี้ยว)		อาหารเสริมประกอบด้วยวิตามินทั้งหมด 13 ชนิด พร้อมแร่ธาตุ 10 ชนิด	ในการสร้างคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของวิตามินและ แร่ธาตุซึ่งส่งผลต่อการดูดซึม สารเติมแต่งไม่ค่อยทำให้เกิดอาการแพ้ ยาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางจิตปรับปรุงความอดทนต่อกิจกรรมกีฬาและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แท็บเล็ตไม่มีรสชาติสังเคราะห์ สีย้อม หรือสารกันบูด	3 เม็ด
พิโควิท ฟอร์เต้ 7+ (เม็ดเคลือบ)		วิตามิน 11 ชนิด	อาหารเสริมช่วยให้นักเรียนได้รับวิตามินบีในปริมาณที่ดี ที่แท็บเล็ต รสชาติดีส้มเขียวหวาน คอมเพล็กซ์ช่วยให้มีความอยากอาหารไม่ดี ภาวะวิตามินต่ำตามฤดูกาล หรือความเครียดที่เพิ่มขึ้น มักสั่งอาหารเสริมหลังการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ไม่มีน้ำตาลในการเตรียมการ	1 เม็ด
วิต้ามิชกิ มัลติพลัส (ยาอมเคี้ยวได้)		วิตามิน 13 ชนิด แร่ธาตุ 2 ชนิด	ยาอมมีรูปทรงดั้งเดิมและมีรสชาติผลไม้ที่น่าพึงพอใจ ต้องขอบคุณโคลีนที่ทำให้ยาช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง คอมเพล็กซ์มีผลดีต่อความสนใจและความทรงจำของนักเรียน ยาอมไม่มีรสสังเคราะห์หรือสารปรุงแต่งรส	ยาอม 1 อัน
วิทรัม จูเนียร์ (เม็ดเคี้ยว)		วิตามิน 13 ชนิด แร่ธาตุ 10 ชนิด	แท็บเล็ตมีรสชาติผลไม้ที่น่าพึงพอใจ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และแคลเซียมในปริมาณสูงจะช่วยทำให้ฟันและท่าทางของนักเรียนแข็งแรงขึ้น คอมเพล็กซ์มีผลกระตุ้นการพัฒนาจิตใจ อาหารเสริมนี้ระบุถึงความเครียดทางร่างกายและจิตใจที่สำคัญ	1 เม็ด
Sana-Sol สำหรับเด็กนักเรียน (เม็ดฟู่)		วิตามินและแมกนีเซียม 10 ชนิด	เตรียมเครื่องดื่มแสนอร่อยจากแท็บเล็ต เนื่องจากมีวิตามินซีและอี คอมเพล็กซ์จึงเพิ่มความต้านทานต่อร่างกายของนักเรียนต่อปัจจัยลบภายนอก เนื่องจากมีวิตามินบีในปริมาณสูงยาจึงมีผลดีต่อระบบประสาทและช่วยในการดูดซับสารใหม่	ดื่ม 1 เม็ดและน้ำ 150 มล
หลายแท็บจูเนียร์ (เม็ดเคี้ยว)		วิตามิน 11 ชนิด แร่ธาตุ 7 ชนิด	อาหารเสริมมาในรูปแบบเม็ดที่มีรสเบอร์รี่หรือผลไม้ นี่เป็นสูตรที่สมดุลสำหรับเด็กนักเรียน ช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็วและรับมือกับภาระงาน ขอบคุณ เนื้อหาสูงไอโอดีนคอมเพล็กซ์ช่วยกระตุ้นทั้งภูมิคุ้มกันและการพัฒนาจิตใจ	1 เม็ด
หลายแท็บวัยรุ่น (เม็ดเคี้ยว)		วิตามิน 11 ชนิด แร่ธาตุ 7 ชนิด	อาหารเสริมทำให้กระบวนการเผาผลาญเป็นปกติและกระตุ้นการพัฒนาสติปัญญา ยานี้มีไอโอดีนในปริมาณเต็ม	1 เม็ด
(เม็ดเคี้ยว)		วิตามิน 10 ชนิด	เด็กนักเรียนชอบรูปร่างและรสชาติของยานี้ คอมเพล็กซ์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและมีผลดีต่อการเผาผลาญในร่างกายของเด็ก	1 เม็ด
ไบโอวิตอล Kinder	ตั้งแต่ปีแรกของชีวิต	วิตามิน 10 ชนิด แร่ธาตุ 3 ชนิด	เด็กๆ ชอบรสชาติและความคงตัวของวิตามินเหล่านี้	วันละสองครั้ง 5 กรัม
เด็กเซ็นทรัม (เม็ดเคี้ยว)		วิตามิน 13 ชนิด แร่ธาตุ 5 ชนิด	อาหารเสริมช่วยให้เด็กได้รับวิตามินบีที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนระบบประสาท กระตุ้นความจำและการคิด คอมเพล็กซ์มีผลดีต่อสภาพของฟันกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน แท็บเล็ตไม่มีน้ำตาลหรือสีย้อม	1 เม็ด

แพทย์หลายคนยืนกรานถึงความจำเป็นในการแนะนำวิตามินเสริมในอาหารของเด็ก ตัวอย่างเช่นคุณสามารถชมวิดีโอของสหภาพกุมารแพทย์แห่งรัสเซีย

เรายืนกรานในเรื่องโภชนาการที่สมดุลและการจัดเตรียมสำหรับนักเรียน ปริมาณที่ต้องการวิตามินจากอาหาร

การปรับเปลี่ยนโภชนาการเป็นทางเลือก

หากผู้ปกครองต้องการใช้วิตามินเพื่อปรับปรุงสุขภาพของเด็กนักเรียนซึ่งจะช่วยพัฒนาจิตใจก็ควรทบทวนอาหารของเด็กก่อนเพราะเราได้รับวิตามินเกือบทั้งหมดที่มีคุณค่าต่อสมองจากอาหาร

ด้วยการรับประทานอาหารที่สมดุลและสมดุลจึงไม่จำเป็นต้องเสริมวิตามินจากร้านขายยา เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเมนูของนักเรียนประกอบด้วย:

• จานจาก ปลามัน(แซลมอนสีชมพู, แซลมอน, ปลาเทราท์) เป็นแหล่งของไอโอดีนและเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย
• แตกต่าง น้ำมันพืชเมล็ดพืชและถั่ว เด็กจะได้รับวิตามินอีจากสิ่งเหล่านี้
• อาหารธัญพืชไม่ขัดสี เป็นแหล่งวิตามินบี

การได้รับแร่ธาตุให้เพียงพอก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อความจำและความสนใจ เด็กต้องการ:

• เหล็ก. แหล่งที่มาของมันคือเนื้อลูกวัว กระต่าย ตับ ถั่ว ไข่ กะหล่ำปลี
• แมกนีเซียม. ลูกของเขาจะได้รับจากถั่ว, ถั่ว, แอปริคอตแห้ง, ถั่ว, ซีเรียล, งา
• สังกะสี. ลูกของคุณจำเป็นต้องกินผลไม้แห้ง ตับ เนื้อสัตว์ เห็ด และเมล็ดฟักทอง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

อ่านบทความอื่นเกี่ยวกับอาหารที่ถูกต้องสำหรับเด็กนักเรียน คุณจะได้เรียนรู้หลักการรับประทานอาหารที่สมดุลและดูเมนูตัวอย่างประจำสัปดาห์

ที่ อาหารที่สมดุลและในกรณีที่ไม่มีอาการทางลบก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิตามินเชิงซ้อน

ความคิดเห็นของ Komarovsky

กุมารแพทย์ที่มีชื่อเสียงเรียกสารวิตามินที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของเด็ก แต่เขามั่นใจว่าเด็กธรรมดาไม่ต้องการวิตามินเชิงซ้อนจากร้านขายยา Komarovsky แนะนำให้ผู้ปกครองตรวจสอบอาหารของลูกอย่างระมัดระวังมากขึ้นเพื่อให้ทุกอย่าง วิตามินที่จำเป็นเข้ามา ร่างกายของเด็กกับอาหาร

สำหรับการปรับปรุงความจำแพทย์ยอดนิยมเตือนว่าฟังก์ชั่นนี้ควรได้รับการฝึกฝนโดยการศึกษาบทกวีและกิจกรรมอื่น ๆ และไม่ควรรับประทานวิตามินเลย

• เมื่อมองหาวิตามินรวมสำหรับเด็ก คุณต้องคำนึงถึงอายุที่แนะนำก่อน ทั้งปริมาณวิตามินที่ลดลงสำหรับเด็กเล็กและปริมาณสูงในเชิงซ้อนสำหรับผู้ใหญ่ไม่เหมาะสำหรับเด็กนักเรียน
• คุณควรซื้อวิตามินเสริมที่ร้านขายยาโดยเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง แล้วคุณจะมั่นใจในคุณภาพของวิตามินที่ลูกได้รับ
• เมื่อเลือกวิตามินเชิงซ้อนสำหรับเด็กนักเรียนพวกเขามักชอบอาหารเสริมที่มีวิตามินอื่นนอกเหนือจากวิตามิน สารอาหาร- ในคอมเพล็กซ์ดังกล่าว ให้ใส่ใจกับปริมาณของไอโอดีน สังกะสี ซีลีเนียม เหล็ก และไขมันโอเมก้า
• หากท่านสนใจคอมเพล็กซ์ด้วย เนื้อหาสูงแคลเซียม ให้ความสำคัญกับอาหารเสริม เช่น Kaltsinova, Pikovit D และ Sana-Sol ที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียม
• หากคุณสนใจการเตรียมวิตามินที่มีธาตุเหล็กสูง คุณควรซื้อ Vitrum Circus หรือ Doctor Theis Multivitamol ในคอมเพล็กซ์เหล่านี้ วิตามินจะถูกเสริมด้วยธาตุเหล็กในปริมาณสูงเพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดและป้องกันโรคโลหิตจาง
• เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กขาดไอโอดีน (แร่ธาตุที่มีความสำคัญมากต่อการพัฒนาจิตใจ) คุณสามารถให้ไอโอโดมารินแก่เด็กนักเรียนหรือเลือกวิตามินรวมที่มีองค์ประกอบนี้ในปริมาณเต็มที่
ไม่อยากเรียน

อนิจจาร่างกายมนุษย์ไม่มี ชีวิตนิรันดร์และเสื่อมโทรมไปหลายปี เมื่อเวลาผ่านไป ระบบของร่างกายต้องทนทุกข์ทรมานจากปัจจัยภายนอกต่างๆ แต่ผลกระทบหลักตกอยู่ที่สมองและความทรงจำ ทุกคนลืมบางสิ่งบางอย่างเป็นครั้งคราว แต่สำหรับบางคน การสูญเสียความทรงจำที่กระจัดกระจายไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นกระบวนการที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องซึ่งต้องได้รับการรักษา ในสถานการณ์เช่นนี้ การฝึกจิตใจอย่างเป็นระบบ ทบทวนกิจวัตรประจำวัน และ ยาเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง โปรดทราบว่าก่อนใช้ยา (ยาเม็ด) คุณควรปรึกษาแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ฉุกเฉินมักเกิดขึ้นซึ่งจำเป็นต้อง “ รถพยาบาล"สำหรับสมอง ซึ่งรวมถึงการสอบผ่าน การปกป้องวิทยานิพนธ์ การสัมภาษณ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ในสถานการณ์เหล่านี้ คุณควรตอบสนองอย่างเหมาะสมและรวดเร็วเมื่อไม่มีเวลาไปพบแพทย์ ในบทความนี้เราจะอธิบายแท็บเล็ตที่ช่วยให้คุณมีสมาธิ

อาการและสาเหตุ

คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องความจำมักเป็น กลุ่มอายุอายุมากกว่า 50 ปี สิ่งนี้มักแสดงออกมาในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางทีการโทรครั้งแรกอาจเป็นหมายเลขที่ถูกลืมและวันที่น่าจดจำ นี้อาจส่งผลกระทบเพิ่มเติม กิจกรรมแรงงานความสัมพันธ์ในครอบครัวซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งและความเข้าใจผิดในส่วนของคนที่รัก

การนำเสนอ: "ความทรงจำ ใครเป็นเจ้าของมัน?"

สาเหตุของการเสื่อมสภาพในการทำงานของสมอง

1. สมองถูกทำลายเนื่องจากการมีอยู่หรือ การผ่าตัดเอาออกเนื้องอก โรคหลอดเลือดสมอง การถูกกระทบกระแทก และความผิดปกติทางกายภาพของสมองและสมองอื่นๆ
2. ผลกระทบ อวัยวะภายใน- เช่น โรคไต โรคติดเชื้อ, ความผิดปกติของการเผาผลาญ, เยื่อหุ้มสมองอักเสบก่อนหน้า
3. อายุ. ในแง่หนึ่ง นี่เป็นทัศนคติแบบเหมารวม แต่แนวโน้มบ่งชี้อย่างเคร่งครัดว่าเมื่อร่างกายมีอายุมากขึ้น คนเราจะจำข้อมูลได้แย่ลง
4. การเสพติด เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ส่งผลโดยตรงต่อเซลล์สมอง นอกจากนี้ยังใช้กับการสูบบุหรี่ สารเสพติดและยาระงับประสาท (ยาแก้ซึมเศร้า)
5. ไลฟ์สไตล์. ขาดการนอนหลับอย่างเป็นระบบ, ความเครียด, รัฐซึมเศร้าโอเวอร์โหลดที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจดจำข้อมูลจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการทำงานของสมองด้วย

เราได้ทราบปัจจัยที่เป็นเหตุและผลแล้ว และตอนนี้เราสามารถเริ่มทำความคุ้นเคยกับยาเม็ดที่จะช่วยปรับปรุงความจำได้แล้ว เริ่มต้นด้วยยาที่ช่วยฟื้นฟูความจำและปรับปรุงความจำ

แท็บเล็ตเพื่อปรับปรุงหน่วยความจำ 10 อันดับแรก

ไม่มียาครอบจักรวาลสำหรับจิตใจหรือยาวิเศษที่จะช่วยเพิ่มความจำของคุณได้ทันที อย่างไรก็ตาม การใช้อย่างเป็นระบบจะปรับปรุงการทำงานของสมอง ทำให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ง่ายขึ้นมาก

การนำเสนอ: "การพัฒนาความจำ สองเกมกับแมวดำ"

รายชื่อยาที่ดีที่สุด 10 อันดับเพื่อปรับปรุงการทำงานของสมอง:

1. ไกลซีน. ยายอดนิยมที่กระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้คุณควบคุมการนอนหลับและยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย แพทย์แนะนำให้รับประทานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน อย่างไรก็ตาม วิตามินสมองนี้ช่วยเพิ่มความจำและนักเรียนใช้อย่างแข็งขันในระหว่างการเตรียมตัวสอบ Glycine มีบทวิจารณ์เชิงบวกเท่านั้น
2. นูโทรพิล. ช่วยเพิ่มความเข้มข้น ใช้รักษาโรคทางสมอง
3. อินเทลแลน. ผลิตในรูปของน้ำเชื่อมและแคปซูล กระตุ้นการทำงานของสมอง สามารถใช้รักษาความเครียด ประสาทเกิน ความเหนื่อยล้าได้ค่ะ รูปแบบเรื้อรัง,ซึมเศร้าบ่อยๆ และยังช่วยได้
4. ไพราซิแทม. ยาตัวนี้ปรับปรุงการทำงานของสมองและกระบวนการเผาผลาญในนั้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายส่งเสริมการจดจำข้อมูลที่ดี แพทย์สั่งยานี้เพื่อรักษาโรคเส้นโลหิตตีบ โรคของระบบประสาทส่วนกลาง และในช่วงภาวะซึมเศร้า
5. ฟีโนโทรปิล. ยาที่มีผลกระตุ้นจิตใจ ใช้หลังการรักษา ติดแอลกอฮอล์การบาดเจ็บซึ่งทำให้ความจำเสื่อม ยาช่วยให้ร่างกายเพิ่มความต้านทานต่อความเครียด แพทย์แนะนำให้รับประทานในตอนเช้า
6. ทานาคา. ยาจิงโก บิโลบา ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ โปรดทราบว่านี่เป็นยาที่มีศักยภาพซึ่งมีข้อห้ามหลายประการ
7. พิคามิลอน. กำหนดไว้หากบุคคลมีการหยุดชะงักในการจัดหาเลือดไปยังสมองโดยมีอาการหงุดหงิดบ่อยครั้งและตื่นตระหนก ยาก็เพิ่มขึ้นด้วย ฟังก์ชั่นการป้องกันร่างกายเกิดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
8. อมินาลอน. ยาที่ใช้รักษาและฟื้นฟูปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง หลังจาก การใช้งานระยะยาวมีการปรับปรุงความจำช่วยในการทำงานที่ได้รับมอบหมายและปรับปรุงการคิดช่วยฟื้นฟูการทำงานของคำพูด ส่วนใหญ่มักกำหนดให้เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า
9. พันโตกัม. ปลอดภัยสำหรับเด็ก มันถูกใช้สำหรับการเจ็บป่วยทางจิต, ปัญญาอ่อน, โรคลมบ้าหมูกำเริบเช่นเดียวกับความยากลำบากในการพัฒนาฟังก์ชั่นการพูด
10. เมมโมแพลนท์ ยาที่เพิ่งคิดค้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในสมอง ปรับปรุงความจำ ความสนใจ และยังช่วยเพิ่มสติปัญญาได้อีกด้วย มันถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งโดยคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นมาตรการป้องกันและโดยผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัย ความผิดปกติของประสาท- มีความคิดเห็นเชิงบวก

ควรสังเกตว่ายาข้างต้นสามารถใช้ได้ แต่ต้องระมัดระวังและหลังจากปรึกษาแพทย์เท่านั้น เนื่องจากปัญหาความจำเสื่อมอาจไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง การขาดความสนใจในระดับประถมศึกษาในวิชาที่โรงเรียนทำให้ไม่เต็มใจที่จะจดจำเนื้อหา โปรดทราบว่าบุตรหลานของคุณอาจชอบดนตรีหรือการเต้นรำ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ายาที่เหมาะกับผู้ใหญ่นั้นไม่ได้เหมาะกับเด็กเสมอไป ยาส่วนใหญ่อาจจะทำให้เกิด ผลกระทบร้ายแรงเพื่อสุขภาพของเด็ก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แนะนำให้สั่งจ่ายยาด้วยตนเองโดยเด็ดขาด ท้ายที่สุดแล้ว ยาที่เพื่อนแนะนำโดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าลูกของเธอเหมาะสมนั้น อาจมีข้อห้ามสำหรับลูกน้อยของคุณ ดังนั้นก่อนไปร้านขายยาควรนัดหมายกับกุมารแพทย์ก่อนจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากนักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอื่นๆ ก็ควรสังเกตด้วยว่า ยามุ่งเป้าไปที่การพัฒนาความจำในเด็ก ควรรับประทานร่วมกับยาและวิตามินอื่นๆ

ควรรับประทานยาข้างต้นหลังจากปรึกษากับแพทย์แล้วเท่านั้น นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าสาเหตุของความล้มเหลวในความเข้มข้นและการทำงานของหน่วยความจำที่ลดลงอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากโรคบางชนิด ทั้งนี้การทานยาจะรักษาเพียงอาการเท่านั้น

เพื่อออกจากสถานการณ์นั้นไม่เพียงแต่จะมียาเพื่อปรับปรุงความจำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเยียวยาชาวบ้านที่ช่วยฟื้นฟูความสนใจและกิจกรรมทางจิตของสมองด้วย

10 อันดับผลิตภัณฑ์เพื่อจิตใจ

ยาไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติในการเพิ่มความจำเท่านั้น สถานที่หลักถูกครอบครอง การออกกำลังกายทุกวัน, การออกกำลังกายการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการเยียวยาพื้นบ้านที่ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุน แต่ยังปรับปรุงการทำงานของสมองอีกด้วย

ด้านล่างนี้คือรายการอาหารที่คุณควรกินทุกวัน สิ่งนี้จะช่วยให้ความทรงจำของคุณอยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ:

• บลูเบอร์รี่;
• ลูกเกดดำ;
• ผลิตภัณฑ์ธัญพืชไม่ขัดสี;
• กรดไขมันที่มีอยู่ในปลา
• ถั่วทุกชนิด
• เมล็ดฟักทอง
• มะเขือเทศ;
• บรอกโคลี;
• ยาต้มปราชญ์;
• ของผสมแห้งและซีเรียล

อย่างที่คุณเห็นนี่ไม่ใช่ยาเม็ด แต่เป็นผลิตภัณฑ์ (วิตามิน) เพื่อรักษากิจกรรมทางจิตให้อยู่ในสภาพดี การทานทุกวันจะทำให้คุณรู้สึกดี สุขภาพแข็งแรง มีสติเต็มที่ และมีความจำดี เพียงเพิ่มรายการข้างต้นลงในอาหารของคุณทุกวัน ในไม่ช้าคุณจะสามารถพูดว่า “ฉันทำอะไรก็ได้”!

ยาแผนโบราณมีสูตรอาหารมากมายที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ แต่เช่นเดียวกับยาก็จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาข้อห้าม เนื่องจากเมื่อรับประทานยาและสมุนไพรไปพร้อมๆ กัน อาจส่งผลเสียต่อยาและเพิ่มประสิทธิภาพได้ ผลข้างเคียงส.

เราได้รวบรวมสูตรอาหารยอดนิยม:

• ดอกโคลเวอร์. ยาต้มทำในลักษณะนี้ - คุณควรรวบรวมหัวของไม้ดอก แห้งเทสองช้อนโต๊ะลงในกระติกน้ำร้อนหลังจากบดแล้วเติมต้มสองถ้วย น้ำร้อน- คุณต้องยืนอย่างน้อยสองชั่วโมง จากนั้นความเครียด รับประทาน ⅓ ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงเป็นเวลาสามเดือน
• โรวันแดง. ในการเตรียมยาต้มให้ใช้เปลือกไม้บดในปริมาณหนึ่งช้อนโต๊ะแล้วเติมน้ำ 250 มล. จากนั้นให้ต้มส่วนผสมเป็นเวลาสิบนาทีแล้วแช่ไว้หกชั่วโมง กินหนึ่งช้อนโต๊ะอย่างน้อยสามครั้งต่อวันเป็นเวลา 30 วัน ความถี่ของหลักสูตรอย่างน้อยปีละสามครั้ง
• ต้นสน ในฤดูใบไม้ผลิเมื่อต้นสนยังอ่อนอยู่แนะนำให้รับประทาน 2-3 ชิ้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งก่อนมื้ออาหาร

หากคุณมีปัญหาเรื่องสมาธิ อารมณ์แปรปรวน หรือนอนไม่หลับ คุณต้องกำจัดต้นตอของปัญหาออก และไม่รักษาด้วยยาเม็ด ยาบรรเทาอาการได้ในระดับหนึ่ง เพิ่มผลข้างเคียงให้กับร่างกาย ดังนั้นจึงแนะนำให้ไปพบแพทย์และตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของความจำและความผิดปกติของสมอง