มีแหล่งข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาและจิตเวช ส่วนใหญ่คุณจะพบสิ่งนั้น นักสังคมวิทยาและโรคจิต- มันเป็นเรื่องเดียวกัน แม้แต่วิกิพีเดียสารานุกรมโลกก็ยังให้คำอธิบายที่คล้ายกันเกี่ยวกับโรคทั้งสองนี้
บรรณาธิการของเว็บไซต์ Popular Psychiatry ได้ทำการศึกษาในหัวข้อนี้และระบุข้อผิดพลาดของนักแปลทั่วโลก ซึ่งทำให้เกิดความสับสนอย่างมากในคำศัพท์
หลักฐานว่า ความแตกต่างระหว่างนักสังคมวิทยาและนักจิตบำบัดมีอยู่ - อ่านบทความนี้
ในสหภาพโซเวียต ทุกอย่างเริ่มต้นจากจิตแพทย์ชาวโซเวียต Pyotr Borisovich Gannushkin ซึ่งกลายเป็นบิดาแห่งหลักคำสอนเรื่องโรคจิต งานของเขา "คลินิกโรคจิต: สถิตยศาสตร์พลศาสตร์และเป็นระบบ" ได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2476 และมีโครงสร้างโดยละเอียดเกี่ยวกับความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับพยาธิวิทยานี้
ภายใต้คำว่าโรคจิตตามรัฐธรรมนูญที่เขารวมกัน รูปทรงต่างๆความผิดปกติของตัวละคร:
ถึงกระนั้นก็ตาม นักสังคมวิทยาและนักจิตวิปริตก็มี ความหมายที่แตกต่างกันแม้ว่าภาคเรียนแรกจะมีชื่อแตกต่างออกไปเล็กน้อยก็ตาม โรคจิตต่อต้านสังคม- อันนี้ก็ยืนยันเหมือนกัน คุณสมบัติลักษณะ: การหลอกลวง การเอาแต่ใจตัวเองอย่างสุดขั้ว และการขาดอารมณ์ทางสังคม
จากผลงานของ Gannushkin สามารถให้คำจำกัดความต่อไปนี้:
สังคมวิทยา– นี่เป็นเพียงความผิดปกติของตัวละครประเภทหนึ่ง แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
มีคำอธิบายโดยละเอียดว่าใครคือใครบนเว็บไซต์ของเราในบทความแยกต่างหาก ดังนั้นเราจึงจะไม่เน้นไปที่ฟีเจอร์ต่างๆ
ในช่วง พ.ศ. 2476-2540 การจำแนกประเภทของ Gannushkin P.B. เป็นมาตรฐานในสหภาพโซเวียตและเสริมด้วยผลงานของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น A. E. Lichko “จิตเวชและการเน้นลักษณะนิสัยในวัยรุ่น”
หลังจากช่วงนี้การแพทย์ในประเทศสมัยก่อน สหภาพโซเวียตเปลี่ยนเป็น การจำแนกประเภทใหม่องค์การอนามัยโลก - ไอซีดี-10.
ชื่อมีการเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะมีการเปรียบเทียบที่ชัดเจนระหว่างข้อกำหนดของ Gannushkin และข้อกำหนดใหม่ก็ตาม การเปรียบเทียบในภาพหน้าจอด้านล่าง
ความผิดปกติ เช่น โรคสังคมวิทยาและโรคจิตเวชได้รับชื่อใหม่ พวกเขาเริ่มถูกเรียก ความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคม (F60.2)และ ความผิดปกติทางบุคลิกภาพเฉพาะ (F60)ตามลำดับ ในเวลาเดียวกันพวกเขายังคงรักษาลำดับชั้นไว้: ความผิดปกติของการแยกทางสังคมเป็นส่วนหนึ่งของความผิดปกติเฉพาะ
คำศัพท์ทางการแพทย์ส่วนใหญ่เป็นภาษารัสเซียและ ภาษาอังกฤษมี ชื่อที่แตกต่างกัน- ตัวอย่างเช่นในรัสเซียมี แต่ในภาษาอังกฤษเรียกว่าโรคเดียวกัน โรคจิตเภทที่ไม่เป็นระเบียบ– โรคจิตเภทที่ไม่เป็นระเบียบ
ใน ในกรณีนี้ปัญหาคือว่าในสังคมวิทยาและจิตเวชของอังกฤษเป็นสิ่งเดียวกัน!
ภาคเรียน โรคจิตเภทเป็นคำพ้องความหมาย ความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคมหรือโรคสังคมวิทยา.
สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากภาพหน้าจอของ Wikipedia ภาษาอังกฤษ
ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับรหัส ICD-10: F60.2.
เนื่องจากการจำแนกประเภทนี้เหมือนกันในทุกประเทศทั่วโลก คุณจึงสามารถค้นหารหัสนี้ได้ในแหล่งข้อมูลภาษารัสเซีย ดังที่เห็นด้านล่าง ตรงกับความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคม
แต่ทำไมในโรงเรียนจิตเวชตะวันตก ความแตกต่างระหว่างโรคจิตและนักสังคมวิทยาไม่มา?
ความจริงก็คือแนวคิดเรื่องความผิดปกติของลักษณะนิสัยในการแพทย์ตะวันตกนั้นถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของผลงานของนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ได้แก่ Karl Birnbaum และ George E. Partridge เดิมเรียกว่า sociopathy โรคจิต ต่อมาเปลี่ยนชื่อ แต่คนต่อต้านสังคมและคนโรคจิตยังคงมีความหมายเหมือนกัน
เป็นเวลานานที่จิตแพทย์และนักจิตวิทยาชาวตะวันตกถกเถียงกันว่าคำใดถูกต้องมากกว่าและมีความแตกต่างระหว่างคำเหล่านี้หรือไม่
นักจิตวิทยาชาวแคนาดาชื่อดัง Robert D. Hare เขียนไว้ในหนังสือของเขาเรื่อง “Snakes in Suit” ว่าทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน ความแตกต่างก็คือโรคสังคมวิทยาเกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของสังคมและไม่ใช่ความผิดปกติทางจิต ในขณะที่โรคจิตเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยทางชีววิทยาและทางพันธุกรรม
สิ่งนี้จะอธิบาย อะไรคือความแตกต่างระหว่างโรคจิตและนักสังคมวิทยา?ที่โรงเรียนจิตเวชศาสตร์ตะวันตก
น่าเสียดายที่คำว่า sociopath และ psychopath กลายเป็นคำพ้องความหมายแม้ในภาษารัสเซีย สิ่งนี้นำไปสู่ความสับสนแม้แต่ในหมู่จิตแพทย์และนักจิตอายุรเวท
อันดับแรกสำหรับคำถาม “จิตเวช” ใน เครื่องมือค้นหา Google ส่งคืนบทความในสารานุกรม Wikipedia ในนั้นเราจะเห็นคำอธิบายต่อไปนี้:
คำอธิบายนี้เหมาะกับความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคม แต่ไม่ใช่ความผิดปกติทางบุคลิกภาพประเภทอื่นโดยเฉพาะ
ตัวอย่างเช่น, ( โรควิตกกังวลตาม ICD-10) มีอาการที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่เขาก็เป็นโรคจิตเช่นกัน
ปัญหาหลักคือพยาธิวิทยานี้อยู่ในขอบเขตระหว่างจิตวิทยาและจิตเวช ถ้าวรรณกรรมทางการแพทย์แปลโดยคนด้วย การศึกษาทางการแพทย์จากนั้นนักแปลธรรมดาจะจัดการกับจิตวิทยา
สิ่งนี้นำไปสู่การทดแทนแนวคิดแม้แต่ในวิกิพีเดีย
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือหนังสือของนักจิตวิทยาชาวแคนาดาชื่อดัง Robert D. Hare ที่มีชื่อว่า "Deprived of Conscience" โลกที่น่าสะพรึงกลัวของคนโรคจิต”
ในนั้นผู้ต่อต้านสังคมและโรคจิตก็รวมเข้าเป็นคำเดียว ผู้เขียนยังชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความผิดปกติทางบุคลิกภาพและโรคจิตเภท แต่จากมุมมองของการแพทย์แผนตะวันตก สำหรับผู้ติดตามนักวิทยาศาสตร์โซเวียต การเปรียบเทียบของเขานั้นไร้สาระ
คำว่า sociopath และ psychopath มีด้วยกัน ความหมายที่แตกต่างกันทั้งในโรงเรียนจิตเวชศาสตร์ตะวันตกและโซเวียต
จิตแพทย์โซเวียตยึดถือการจัดประเภทของ Gannushkin และยังคงใช้คำว่า โรคจิต เป็นคำพ้องสำหรับความผิดปกติทางบุคลิกภาพเฉพาะ (F60) และ sociopathy - ความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคม (F60.2)
คนรุ่นใหม่ใช้คำศัพท์นี้และดำเนินการด้วยแนวคิดเดียวกัน
ในโลกตะวันตก นักสังคมวิทยาและโรคจิตเป็นเพียงความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ไม่เข้าสังคม (F60.2)แต่ความแตกต่างคือที่มาของความผิดปกติ กรณีแรกเป็นเรื่องทางสังคม กรณีที่สองเป็นเรื่องทั่วไป
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อหนังสือเรียนและหนังสือเริ่มแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง บรรณาธิการไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ แต่ใน CIS ความสับสนนั้นเด่นชัดมาก
วรรณกรรมเกี่ยวกับจิตวิทยาจำนวนมากไม่ได้รับการแปลอย่างถูกต้อง และเป็นผลให้เว็บไซต์หลายร้อยแห่งให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
ไม่ทราบวิธีแก้ปัญหานี้ สิ่งที่เหลืออยู่คือการวิเคราะห์ความหมายของคำว่าผู้ต่อต้านสังคมและโรคจิตอย่างรอบคอบในบริบทเฉพาะและเลือกแหล่งข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อรับความรู้และการเขียนบทความทางวิทยาศาสตร์
ในบทความนี้เราจะดูที่แผนกของโรคจิตเภทในวิทยาศาสตร์สำหรับคำจำกัดความที่ละเอียดยิ่งขึ้นและความสามารถในการวาดขอบเขตระหว่างโรคที่เป็นเนื้อเดียวกัน
ขั้นแรก ให้แยกความเข้าใจผิดทั่วไปออกทันที ซึ่งก็คือ สังคม ทางตันและสังคม โกงนี่เป็นคำสองคำที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โซซิโอ โกงกลัวและหลีกเลี่ยงผู้คน โซซิโอ ทางตันทนทุกข์ทรมานจากโรคจิตเภทและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน (เว้นแต่ว่าเขาเป็นคนต่อต้านสังคมที่มีความหวาดกลัวทางสังคม)
บุคคลที่ทุกข์ทรมานจากโรคจิตจะได้รับการพิจารณาตามมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์เฉพาะในสาขาจิตเวชศาสตร์และ จิตวิทยาคลินิก- นี่เป็นเพราะการแบ่งส่วนวิชาชีพตามเงื่อนไข นักจิตวิทยาควรจัดการกับปัญหา คนที่มีสุขภาพดีจิตแพทย์ที่มีกรณีทางพยาธิวิทยา ในการปฏิบัติทางจิตวิทยาส่วนตัว เป็นเรื่องปกติที่จะเรียกร้องให้มีการรักษาผู้ป่วยที่มีความเบี่ยงเบนทางพยาธิวิทยาและกำหนดให้จิตบำบัดและ การรักษาด้วยยา- เส้นทางนี้ค่อนข้างอันตรายเนื่องจากนักจิตวิทยาเอกชนประการแรกอาจกลายเป็นมือสมัครเล่นและประการที่สองจิตบำบัดที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสาขาจิตวิทยา (ไม่ใช่จิตเวช) อาจแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการซึ่งท้ายที่สุดจะไม่นำไปสู่การรักษา แต่จะนำไปสู่ความอิ่มตัวทางการเงินของนักจิตวิทยา
โรคจิตมักจะแบ่งตามการจำแนกประเภทของ Gannushkin (การจำแนกประเภทของโรคจิต) และตามลักษณะของการได้มา (ประเภทของโรคจิต)
การจำแนกประเภทของโรคจิตตาม Gannushkin:
ตามการจำแนกประเภทนี้จนถึงปี 1997 จิตเวชได้จำแนกผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ในบริบทของบทความนี้การวิเคราะห์รายละเอียดของโรคจิตแต่ละประเภทแยกกันไม่สมเหตุสมผล ในสาขาจิตเวชศาสตร์สมัยใหม่ แบ่งตาม ICD (International Classification of Diseases) ICD-10 ปัจจุบัน หากต้องการพิจารณาโดยละเอียด ต้อง “หมวด 5 – ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรมผิดปกติ” นอกจากนี้ ตาม ICD มีการแบ่งออกเป็น "F07.0 - ความผิดปกติทางบุคลิกภาพของสาเหตุอินทรีย์" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรคจิตเภท ซึ่งในทางกลับกันก็มีการจำแนกประเภทที่ลึกซึ้งเช่นกัน การจำแนกประเภททั้งหมดนี้เป็นลักษณะเฉพาะเช่น อธิบายอาการของผู้ป่วยเพื่อสั่งการรักษาที่เหมาะสม
โรคจิตเภทมีสองประเภทซึ่งแบ่งตามสาเหตุ: ทางพันธุกรรมและได้มา แผนกนี้เรียกว่า " อนุกรมวิธานทางพันธุกรรมของโรคจิตเภท Kerbikov-Felinskaya»:
การแบ่งส่วนนี้เป็นไปตามอำเภอใจและสามารถผสมสาเหตุได้ จากการจำแนกประเภทนี้สามารถให้คำจำกัดความที่ชัดเจนได้สองประการ 1) โรคจิตเภทนิวเคลียร์ได้มาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม 2) โรคจิตเภทที่ได้มานั้นเกิดขึ้นตลอดชีวิต ดังนั้นสิ่งที่ได้มาจึงถือเป็นโรคสังคมวิทยาเนื่องจากได้มาโดยเป็นผลมาจากการติดต่อทางสังคม
ด้วยเหตุนี้เราจึงได้คำจำกัดความสองประการที่แยกความแตกต่างระหว่างโรคจิตเภทและโรคสังคมวิทยา:
จากที่กล่าวมาข้างต้นว่าคนโรคจิตสามารถเป็นนักสังคมวิทยาได้นั่นคือโรคจิตของเขาได้มาจากการมีปฏิสัมพันธ์ที่เจ็บปวดกับสังคม แต่ไม่ได้หมายความว่าคนโรคจิตทุกคนจะเป็นคนต่อต้านสังคม แม้ว่าอาการจะคล้ายกันก็ตาม
คริสเตียน เบล รับบทเป็น แพทริค เบทแมน ใน American Psycho
นักจิตบำบัดและนักสังคมวิทยาเป็นคำสองคำที่ใช้ในจิตวิทยายอดนิยมเพื่ออธิบายบุคคลที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม
คุณสมบัติทั่วไปนักสังคมวิทยาและโรคจิต - เพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้อื่น, ความรู้สึกและสิทธิของพวกเขา, แนวโน้มที่จะหลอกลวงและจัดการ อย่างไรก็ตาม, ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยม คนประเภทนี้ไม่ได้เป็นคนใจร้อนและมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงเสมอไป
การวินิจฉัยสามารถเกิดขึ้นได้หากบุคคลหนึ่งมีอย่างน้อยสามข้อ นอกเหนือจากเกณฑ์ทั่วไปสำหรับความผิดปกติทางบุคลิกภาพ อาการต่อไปนี้:
อะไรคือความแตกต่างระหว่างโรคจิตและนักสังคมวิทยา?
นักจิตวิทยาบางคนแย้งว่าโรคสังคมวิทยาเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญที่แยกความแตกต่างระหว่างทั้งสองประเภทนี้เชื่อว่าโรคจิตคือความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่สืบทอดมา และเป็นโรคทางจิตสังคมเกิดขึ้นได้ ซึ่งเกิดจากอาการบาดเจ็บที่สมองหรือประสบการณ์อันเจ็บปวดในวัยเด็ก กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนโรคจิตเกิดมา แต่คนต่อต้านสังคมถูกสร้างขึ้นมา
ภาพเหมือนของคนโรคจิต
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนโรคจิตมีส่วนในสมองที่ยังไม่พัฒนาซึ่งมักจะมีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และควบคุมแรงกระตุ้น
โดยทั่วไปแล้ว คนโรคจิตจะมีปัญหาในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงในความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ปลอมแปลงและผิวเผินเพื่อบงการคนใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์สูงสุด ผู้คนสำหรับพวกเขาเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายส่วนตัวของพวกเขา และไม่ว่าพวกเขาจะทำร้ายผู้อื่นมากเพียงใด คนโรคจิตก็แทบจะไม่รู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของคนอื่น พวกเขาดูมีเสน่ห์ น่าเชื่อถือ คนดีโดยมีการทำงานปกติและมีเสถียรภาพ
บางคนมีครอบครัวและมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคู่รักด้วย บ่อยครั้งที่พวกเขาได้รับการศึกษาดีและสามารถเรียนรู้ได้มากมายด้วยตนเอง เมื่อพบว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับประวัติอาชญากรรมบางประเภท นักโรคจิตจะทำทุกอย่างเพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษ เขาจะวางแผนเรื่องนี้อย่างรอบคอบและจัดเตรียมทุกอย่างตัวเลือกที่เป็นไปได้
พัฒนาการของเหตุการณ์
ภาพเหมือนของนักสังคมวิทยา
โรคสังคมวิทยาเป็นผลมาจากอิทธิพลของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมบางอย่าง เช่น บรรยากาศครอบครัวที่ทำลายล้างซึ่งเด็กเติบโตขึ้นมา การทารุณกรรมทางร่างกายหรืออารมณ์ หรือความบอบช้ำทางจิตใจอื่นๆ ในวัยเด็ก พวกต่อต้านสังคมมีพฤติกรรมแปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้มากกว่าพวกโรคจิต มีปัญหาเดียวกันในการสร้างความผูกพัน แต่บางคนก็สามารถอยู่กับใครสักคนได้การเชื่อมต่อส่วนบุคคล หรือรู้สึกเหมือนคุณอยู่ในกลุ่มคนที่มีใจเดียวกัน แต่พวกเขาไม่สามารถยึดงานเดิมไว้ได้นานหรือแสดงให้โลกเห็นถึงความปกติได้.
ชีวิตครอบครัว
เมื่อก่ออาชญากรรม นักสังคมวิทยาจะกระทำการโดยหุนหันพลันแล่นและหุนหันพลันแล่น พวกเขาโกรธง่ายและอารมณ์เสียได้ง่ายซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การกระทำที่เป็นอันตรายของผู้ต่อต้านสังคมจึงคาดเดาได้ง่ายกว่า
ใครอันตรายกว่ากัน? ทั้งสองอย่างเป็นอันตรายต่อสังคม อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะพยายามรับมือกับความผิดปกติของตัวเอง แต่คนโรคจิตยังมีอันตรายมากกว่าเพราะพวกเขาไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยสำหรับการกระทำของพวกเขา พวกเขาสามารถแยกทางอารมณ์จากการกระทำของตนได้ และสำหรับคนที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ความทุกข์ทรมานของผู้อื่นก็ไม่สมเหตุสมผลเลย ฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงหลายคนเป็นโรคจิต แต่
ไม่ใช่คนโรคจิตและนักสังคมวิทยาทุกคนจะเป็นหรือจะเป็นฆาตกร
นักจิตบำบัดและนักสังคมวิทยาเป็นคำสองคำที่ใช้ในจิตวิทยายอดนิยมเพื่ออธิบายบุคคลที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม มีความแตกต่างระหว่างพวกเขา แต่ก่อนอื่น เรามาพูดถึงสิ่งที่รวมพวกเขาเข้าด้วยกัน ลักษณะทั่วไปของผู้ต่อต้านสังคมและโรคจิตคือการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้อื่น ความรู้สึกและสิทธิของพวกเขา และแนวโน้มที่จะหลอกลวงและบงการ อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยม คนประเภทนี้ไม่ได้เป็นคนใจร้อนและมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงเสมอไป ลักษณะที่มักเกิดขึ้นกับทั้งคนโรคจิตและคนต่อต้านสังคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม ได้รับการกำหนดไว้ในคู่มือการวินิจฉัยสำหรับ ความผิดปกติทางจิต(ดีเอสเอ็ม-5) การวินิจฉัยสามารถทำได้หากบุคคลหนึ่งๆ มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อยสามประการ นอกเหนือจากเกณฑ์ทั่วไปสำหรับความผิดปกติทางบุคลิกภาพ:
อาการเหล่านี้เริ่มปรากฏเมื่ออายุ 15 ปี และอีก 10 ปีต่อมา บุคคลนั้นก็เข้าสู่ภาวะร้ายแรงได้ครึ่งทางแล้ว ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ- อะไรคือความแตกต่างระหว่างโรคจิตและนักสังคมวิทยา? ความคิดเห็นของนักจิตวิทยาคลินิก John Grohol
โรคจิตเภทมักเป็นโรคที่มีมา แต่กำเนิด - มีความบกพร่องทางพันธุกรรมต่อการปรากฏตัวของลักษณะบุคลิกภาพดังกล่าว (ไม่เหมือนกับโรคสังคมวิทยาซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม) โรคจิตเภทอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการพัฒนาสมอง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนโรคจิตมีส่วนในสมองที่ยังไม่พัฒนาซึ่งโดยทั่วไปมีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และควบคุมแรงกระตุ้น 1 โดยทั่วไปแล้ว คนโรคจิตจะมีปัญหาในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงในความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ปลอมแปลงและผิวเผินเพื่อบงการคนใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์สูงสุด ผู้คนสำหรับพวกเขาเป็นเพียงเบี้ยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายส่วนตัวของตน และไม่ว่าพวกเขาจะทำร้ายผู้อื่นมากเพียงใด คนโรคจิตก็แทบจะไม่รู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำของตนเอง
น่าแปลกที่ในสายตาของคนอื่น พวกเขาดูมีเสน่ห์ น่าเชื่อถือ เป็นคนดี มีงานปกติและมั่นคง บางคนมีครอบครัวและดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคู่ของพวกเขา บ่อยครั้งที่พวกเขาได้รับการศึกษาดีและสามารถเรียนรู้ได้มากมายด้วยตนเอง เมื่อพบว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับประวัติอาชญากรรมบางประเภท นักโรคจิตจะทำทุกอย่างเพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษ เขาจะวางแผนกรณีนี้อย่างรอบคอบและจัดเตรียมสถานการณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ตัวอย่างของโรคจิตในวัฒนธรรมสมัยใหม่:
เด็กซ์เตอร์(ฮีโร่ของซีรีส์โทรทัศน์อเมริกัน Dexter, 2549–2556); แอนตัน ชิกูร์(พระเอกของนวนิยายของ Cormac McCarthy No Country for Old Men, 2005 และฮีโร่ของ Javier Bardem ในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันของพี่น้องโคเอน, 2007); เฮนรี่ในภาพยนตร์เรื่องของ John McNaughton เรื่อง Henry: Portrait of a Serial Killer (1986); แพทริค เบทแมนใน American Psycho โดย Mary Harron (2000)
โรคสังคมวิทยาเป็นผลมาจากอิทธิพลของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมบางอย่าง เช่น บรรยากาศครอบครัวที่ทำลายล้างซึ่งเด็กเติบโตขึ้นมา การทารุณกรรมทางร่างกายหรืออารมณ์ หรือความบอบช้ำทางจิตใจอื่นๆ ในวัยเด็ก พวกต่อต้านสังคมมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้มากกว่าพวกโรคจิต มีปัญหาเดียวกันกับการสร้างความผูกพัน บางคนยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับใครบางคนหรือรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่มีความคิดเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่สามารถยึดงานเดิมไว้ได้นานหรือแสดงให้โลกเห็นถึงความคล้ายคลึงของชีวิตครอบครัวปกติได้ เมื่อก่ออาชญากรรมพวกเขาจะกระทำโดยหุนหันพลันแล่นและหุนหันพลันแล่น พวกเขาโกรธง่ายและอารมณ์เสียได้ง่ายซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การกระทำที่เป็นอันตรายของผู้ต่อต้านสังคมจึงคาดเดาได้ง่ายกว่า
ตัวอย่างคนจิตวิปริตในภาพยนตร์:
โจ๊กในภาพยนตร์ของคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง The Dark Knight (2008); เจดีใน Deadly Attraction ของ Michael Lehmann (1988); อเล็กซ์ใน A Clockwork Orange ของสแตนลีย์ คูบริก (1971)
ทั้งสองอย่างเป็นอันตรายต่อสังคม อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะพยายามรับมือกับความผิดปกติของตัวเอง แต่คนโรคจิตยังคงเป็นอันตรายมากกว่าเพราะพวกเขาไม่รู้สึกผิดต่อการกระทำของตนแม้แต่น้อย พวกเขาสามารถแยกทางอารมณ์จากการกระทำของตนได้ และสำหรับคนที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ความทุกข์ทรมานของผู้อื่นก็ไม่สมเหตุสมผลเลย ฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงหลายคนเป็นโรคจิต แต่ไม่ใช่คนโรคจิตและนักสังคมวิทยาทุกคนจะเป็นหรือจะเป็นฆาตกร
โรคทางจิตและโรคสังคมเป็นสองแง่มุมที่แตกต่างกันของความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม ซึ่งได้รับการวินิจฉัยในประมาณ 1-3% ของประชากร พบบ่อยในผู้ชายและส่วนใหญ่ในผู้ที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง การใช้ยาเสพติดและสารเสพติด พวกโรคจิตชอบบงการและมีเสน่ห์มากกว่า เพราะจะทำให้พวกเขาดูเหมือนมีชีวิตปกติและลดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ง่ายกว่า พวกต่อต้านสังคมจะเป็นคนประหลาด โกรธง่าย และไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ พวกเขาทำชั่วโดยประมาทและไม่คิดถึงผลที่ตามมา
John Grohol เป็นนักจิตวิทยาคลินิก ผู้เผยแพร่วิทยาศาสตร์ ผู้สร้างและผู้อำนวยการชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา Psych Central ไซต์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 50 ไซต์ยอดนิยมของ The Times ในปี 2008 นอกจากที่พักแล้ว การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสิ่งพิมพ์ นักจิตอายุรเวทและจิตแพทย์ผู้มีประสบการณ์หลายสิบคนบล็อกที่นี่และตอบคำถามจากผู้เยี่ยมชม ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ psychcentral.com
1 ม. เคอนิกส์ และคณะ "ลดการเชื่อมต่อส่วนหน้าในโรคจิตเภท" วารสารประสาทวิทยาศาสตร์, 31, 2011; เอส. เกรกอรี, เอ็น. แบล็ควูด และคณะ “ สมองต่อต้านสังคม: เรื่องทางจิต - การตรวจสอบ MRI โครงสร้างของผู้กระทำความผิดชายต่อต้านสังคม” จดหมายเหตุของจิตเวชศาสตร์ทั่วไป สิ่งพิมพ์ออนไลน์วันที่ 7 พฤษภาคม 2555
นักจิตบำบัดและนักสังคมวิทยาเป็นคำสองคำที่ใช้ในจิตวิทยายอดนิยมเพื่ออธิบายบุคคลที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม มีความแตกต่างระหว่างพวกเขา แต่ก่อนอื่น เรามาพูดถึงสิ่งที่รวมพวกเขาเข้าด้วยกัน ลักษณะทั่วไปของผู้ต่อต้านสังคมและโรคจิตคือการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้อื่น ความรู้สึกและสิทธิของพวกเขา และแนวโน้มที่จะหลอกลวงและบงการ อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยม คนประเภทนี้ไม่ได้เป็นคนใจร้อนและมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงเสมอไป ลักษณะที่พบได้ทั่วไปในทั้งคนโรคจิตและคนต่อต้านสังคม หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือบุคคลที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม ได้รับการนิยามไว้ในคู่มือการวินิจฉัยความผิดปกติทางจิต (DSM-5) การวินิจฉัยสามารถทำได้หากบุคคลหนึ่งๆ มีอาการต่อไปนี้อย่างน้อยสามประการ นอกเหนือจากเกณฑ์ทั่วไปสำหรับความผิดปกติทางบุคลิกภาพ:
อาการเหล่านี้เริ่มปรากฏเมื่ออายุ 15 ปี และอีก 10 ปีต่อมา บุคคลนั้นก็เข้าสู่ภาวะผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ร้ายแรงได้ครึ่งทางแล้ว อะไรคือความแตกต่างระหว่างโรคจิตและนักสังคมวิทยา? ความคิดเห็นของนักจิตวิทยาคลินิก John Grohol
คุณสมบัติของโรคจิต
โรคจิตเภทมักเป็นโรคที่มีมา แต่กำเนิด - มีความบกพร่องทางพันธุกรรมต่อการปรากฏตัวของลักษณะบุคลิกภาพดังกล่าว (ไม่เหมือนกับโรคสังคมวิทยาซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม) โรคจิตเภทอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการพัฒนาสมอง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนโรคจิตมีส่วนในสมองที่ยังไม่พัฒนาซึ่งโดยทั่วไปมีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และควบคุมแรงกระตุ้น 1 โดยทั่วไปแล้ว คนโรคจิตจะมีปัญหาในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงในความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่พวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ปลอมแปลงและผิวเผินเพื่อบงการคนใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์สูงสุด ผู้คนสำหรับพวกเขาเป็นเพียงเบี้ยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายส่วนตัวของตน และไม่ว่าพวกเขาจะทำร้ายผู้อื่นมากเพียงใด คนโรคจิตก็แทบจะไม่รู้สึกสำนึกผิดต่อการกระทำของตนเอง
น่าแปลกที่ในสายตาของคนอื่น พวกเขาดูมีเสน่ห์ น่าเชื่อถือ เป็นคนดี มีงานปกติและมั่นคง บางคนมีครอบครัวและดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคู่ของพวกเขา บ่อยครั้งที่พวกเขาได้รับการศึกษาดีและสามารถเรียนรู้ได้มากมายด้วยตนเอง เมื่อพบว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับประวัติอาชญากรรมบางประเภท นักโรคจิตจะทำทุกอย่างเพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษ เขาจะวางแผนกรณีนี้อย่างรอบคอบและจัดเตรียมสถานการณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ตัวอย่างของโรคจิตในวัฒนธรรมสมัยใหม่:
เด็กซ์เตอร์(ฮีโร่ของซีรีส์โทรทัศน์อเมริกัน Dexter, 2549-2556); แอนตัน ชิกูร์(พระเอกของนวนิยายของ Cormac McCarthy No Country for Old Men, 2005 และฮีโร่ของ Javier Bardem ในภาพยนตร์ชื่อเดียวกันของพี่น้องโคเอน, 2007); เฮนรี่ในภาพยนตร์เรื่องของ John McNaughton เรื่อง Henry: Portrait of a Serial Killer (1986); แพทริค เบทแมนใน American Psycho โดย Mary Harron (2000)
คุณสมบัติของสังคมวิทยา
โรคสังคมวิทยาเป็นผลมาจากอิทธิพลของปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมบางอย่าง เช่น บรรยากาศครอบครัวที่ทำลายล้างซึ่งเด็กเติบโตขึ้นมา การทารุณกรรมทางร่างกายหรืออารมณ์ หรือความบอบช้ำทางจิตใจอื่นๆ ในวัยเด็ก พวกต่อต้านสังคมมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้มากกว่าพวกโรคจิต มีปัญหาเดียวกันกับการสร้างความผูกพัน บางคนยังสามารถรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับใครบางคนหรือรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่มีความคิดเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่สามารถยึดงานเดิมไว้ได้นานหรือแสดงให้โลกเห็นถึงความคล้ายคลึงของชีวิตครอบครัวปกติได้ เมื่อก่ออาชญากรรมพวกเขาจะกระทำโดยหุนหันพลันแล่นและหุนหันพลันแล่น พวกเขาโกรธง่ายและอารมณ์เสียได้ง่ายซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การกระทำที่เป็นอันตรายของผู้ต่อต้านสังคมจึงคาดเดาได้ง่ายกว่า
ตัวอย่างคนจิตวิปริตในภาพยนตร์:
โจ๊กในภาพยนตร์ของคริสโตเฟอร์ โนแลนเรื่อง The Dark Knight (2008); เจดีใน Deadly Attraction ของ Michael Lehmann (1988); อเล็กซ์ใน A Clockwork Orange ของสแตนลีย์ คูบริก (1971)
ทั้งสองอย่างเป็นอันตรายต่อสังคม อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะพยายามรับมือกับความผิดปกติของตัวเอง แต่คนโรคจิตยังคงเป็นอันตรายมากกว่าเพราะพวกเขาไม่รู้สึกผิดต่อการกระทำของตนแม้แต่น้อย พวกเขาสามารถแยกทางอารมณ์จากการกระทำของตนได้ และสำหรับคนที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ความทุกข์ทรมานของผู้อื่นก็ไม่สมเหตุสมผลเลย ฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงหลายคนเป็นโรคจิต แต่ไม่ใช่คนโรคจิตและนักสังคมวิทยาทุกคนจะเป็นหรือจะเป็นฆาตกร
โรคทางจิตและโรคสังคมเป็นสองแง่มุมที่แตกต่างกันของความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต้านสังคม ซึ่งได้รับการวินิจฉัยในประมาณ 1-3% ของประชากร พบบ่อยในผู้ชายและส่วนใหญ่ในผู้ที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง การใช้ยาเสพติดและสารเสพติด พวกโรคจิตชอบบงการและมีเสน่ห์มากกว่า เพราะจะทำให้พวกเขาดูเหมือนมีชีวิตปกติและลดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ง่ายกว่า พวกต่อต้านสังคมจะเป็นคนประหลาด โกรธง่าย และไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ พวกเขาทำชั่วโดยประมาทและไม่คิดถึงผลที่ตามมา